วันศุกร์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2559

[SF] Breath of Jealousy 1/2 #ถิงถิง

[SF] Breath of Jealousy #ถิงถิง
Pairing: เฉินเหว่ยถิง x เฉินเหว่ยถิง
...............................................................................................................................
 
                ในห้องที่เปิดแอร์เย็นฉ่ำแต่อุณหภูมิบนเตียงสีขาวสะอาดกำลังร้อนรุ่มราวกับไฟ
ลมหายใจหอบหนักเคล้าเสียงหวานสูงที่กำลังร้องครางกระตุ้นสัญชาตญาณในกายของชายหนุ่มให้ร้องร่ำโผนทะยานแรงอารมณ์ไปสู่จุดสูงสุด เสียงของคนสองคนครางแข่งกันจนแยกไม่ออกว่าเสียงใครเป็นเสียงใคร...

10.08 น.
                “จะไม่ออกไปด้วยกันจริง ๆ เหรอ เติ๋งเติ่ง” เจ้าของเสียงหวานในชุดเดรสรัดรูปเผยสัดส่วนอวบอัดเบียดสะโพกนั่งหมิ่นเหม่อยู่ริมขอบเตียงสีขาวสะอาด แต่คนที่เธอเพียรออดอ้อนนั้นยังไม่ยอมขยับตัวออกจากผ้านวมผืนหนา
เจ้าของชื่อ “เติ๋งเติ่ง” ปรือตามองสาวเจ้าที่มีความสุขร่วมกับเขาในคืนที่ผ่านมาแล้วก็ได้แต่ถอนหายใจ
“ฉันว่าเมื่อคืนฉันพูดชัดแล้วนะ ว่าคืนเดียวแล้วจบกัน อย่าเรื่องมากน่า” สายตาคมปรายมองด้วยความรำคาญใจเมื่อหญิงสาวที่ตกลงกันเป็นคู่นอนชั่วคืนต้องการจะสานต่อความสัมพันธ์
“แต่ว่า...”
ก๊อก ๆ ๆ
ประตูถูกเปิดออกโดยที่เจ้าของห้องยังไม่ได้อนุญาตเพราะคนที่เปิดเข้ามาเคยชินกับการเดินเข้าออกห้องนี้ไม่ต่างจากห้องของตัวเอง ใบหน้าคมคายที่เหมือนกันทุกกระเบียดนิ้วของคนที่ยืนอยู่หน้าประตูกับคนที่นอนอยู่บนเตียงทำให้คนที่นั่งอยู่มองตาค้าง ดวงตาคมปราดมองหญิงสาวแปลกหน้าด้วยสายตาชินชา ในอ้อมแขนมีมิเนเจอร์ชเนาเซอร์ตัวเบิ้มที่พอเห็นคนที่คนที่นอนอยู่บนเตียงก็กระดิกหางระริกระรี้
“เจ้าตัวเล็กไม่ยอมกินข้าว สงสัยต้องให้นายจัดการ” เฉินเหว่ยถิงพูดเสียงเรียบก่อนเดินเข้ามาหยุดยืนอยู่ปลายเตียงทำราวกับในห้องนี้มีเพียงเขาและน้องชายฝาแฝดเท่านั้น หญิงสาวที่ถูกเมินราวกับเป็นอากาศธาตุขยับตัวแสดงความมีตัวตนของเธอก่อนเยื้องกรายมาใกล้แฝดผู้พี่ มือเรียวกรีดกรายบนบ่าแกร่งก่อนออดอ้อนเสียงแผ่ว
“งานดีแพ็คคู่ขนาดนี้ ไม่รู้ว่ารสชาติจะเหมือนกันหรือเปล่านะคะ”
“ช่วยเอามือของคุณออกไปด้วย ผมไม่ชอบถูกเนื้อต้องตัวกับคนแปลกหน้า”
หญิงสาวพยายามข่มความไม่พอใจที่ถูกหักหน้าเอาไว้แล้วยิ้มหวานเอื้อมมือจะไปลูบเจ้าขนฟูในอ้อมแขนของชายหนุ่ม แต่ก่อนที่จะได้ทันทำอย่างใจคิด เสียงจากคนที่เมื่อครู่นอนอยู่บนเตียงก็ตวาดลั่น
“หยุด! ห้ามแตะต้องลูกของฉันแม้แต่ปลายเล็บ หมดธุระของเธอแล้วก็กลับไป!
หญิงสาวสะดุ้งเฮือก จากผู้ชายที่หยอดคำหวานไม่หยุดคอยเอาใจใส่ดูแลเธอเมื่อคืนนี้ พอรุ่งเช้าก็เปลี่ยนเป็นคนละคน แถมตอนนี้ดวงตาคมกร้าวที่จ้องเขม็งมาทำให้เธอไม่กล้าอิดออดอีก
“อะ โอเค ฉันกลับก็ได้”
ปัง! เสียงปิดประตูไม่เบานักเป็นสัญญาณว่าผู้ไม่เกี่ยวข้องได้จากไปแล้ว
“วันหลังก็เลือกคนที่มีมารยาทกว่านี้หน่อยนะ” เฉินเหว่ยถิงพูดเสียงเรียบราวกับเป็นการไถ่ถามสารทุกข์สุกดิบประจำแล้วโน้มตัวปล่อยเจ้าขนฟูตัวใหญ่ไปหาเจ้าของอีกคนที่ตอนนี้เปลี่ยนจากนอนมานั่งอวดร่างกายท่อนบนที่เต็มไปกล้ามเนื้อของตัวเองแล้ว
“ก็แค่ครั้งเดียวแหละน่า” เติ๋งเติ่งตอบพลางเล่นกับ เจ้าตัวเล็กสุนัขตัวโปรดอย่างรักใคร่
คนเป็นพี่ถือวิสาสะเปิดตู้เสื้อผ้าใบย่อมจับ ๆ รื้อ ๆ เพียงไม่นานก็ได้เสื้อสีแดงเลือดหมูตัวหนึ่งออกมาก่อนโยนให้คนบนเตียงเหมือนไม่ใส่ใจนักว่าสิ่งที่โยนไปจะไปตกที่ตรงไหน แต่มันก็ตกลงบนตักของคนเป็นน้องพอดิบพอดี
“ใส่ซะ เดี๋ยวก็เป็นหวัดอีก” คนเป็นน้องเบ้หน้ากับความเจ้ากี้เจ้าการของพี่ชาย แต่ก็คร้านจะต่อปากต่อคำจึงได้แต่หยิบเสื้อมาใส่ลวก ๆ พอดีกับที่ประตูห้องถูกเปิดออกอีกครั้ง
ไม่ต้องเดาเติ๋งเติ่งก็พอจะรู้ว่าเป็นใคร มีไม่กี่คนที่สามารถเข้าออกบ้านของเขาได้ตามใจชอบ
“ไง พ่อคาสโนว่า คนเมื่อกี๊โคตรเด็ดเลย เบื่อก็แนะนำให้ฉันบ้างสิ”
จางฮั่น...เพื่อนสนิทของเฉินเหว่ยถิงนั่นเอง



จางฮั่นมองน้องชายฝาแฝดของเพื่อนรักที่ยังคงไม่ยี่หระที่จะใส่เพียงเสื้อคอกว้างตัวเดียววิ่งไล่เพื่อนสี่ขาอย่างสนุกสนาน ถึงเฉินเหว่ยถิงและเติ๋งเติ่งจะเป็นฝาแฝดที่แทบไม่มีตำหนิใด ๆ บนใบหน้าที่ต่างกันเลย แต่เขาไม่เคยจะทักสองคนนี้ผิดแม้สักครั้งเดียว แม้จะเป็นตอนที่รู้จักกันแรก ๆ ก็ตาม ยิ่งคบกันมาเป็นสิบปีเขายิ่งรับรู้ได้ว่าทั้งสองคนเป็นคนละคนกันโดยสิ้นเชิง
ทำไมน่ะเหรอ...
Sex appeal ล่ะมั้ง
เติ๋งเติ่งเป็นผู้ชายประเภทที่สาว ๆ ทั้งมหาวิทยาลัยเรียกว่าคาสโนว่า ควงผู้หญิงไม่ซ้ำหน้ามาแต่ไหนแต่ไร มีผู้หญิงมากมายพร้อมที่จะท้าทายหวังเป็นคนที่จะครอบครองหัวใจของเติ๋งเติ่งเพียงคนเดียว แต่ไม่เคยมีใครทำได้เลย
แต่ที่จางฮั่นสามารถแยกเติ๋งเติ่งออกจากเฉินเหว่ยถิงได้ ไม่ใช่ว่าเขาสังเกตว่าสาว ๆ วิ่งเข้าหาใครหรอกนะ แต่มันคือเสน่ห์ที่ดึงดูดแม้กระทั่งเพศเดียวกันให้สนใจ ทั้งแววตา ท่วงท่าการขยับร่างกาย ทุกอย่างน่ามอง ดึงดูดสายตาให้เขาเผลอมองตามอยู่บ่อย ๆ ซึ่งเขาไม่มีวันรู้สึกแบบนี้กับเฉินเหว่ยถิงแน่ ๆ
“ขึ้นมาทำไม”
จากฮั่นเลิกคิ้วยียวนกลับไปยังเจ้าของคำถาม สงสัยคนเป็นพี่จะเห็นว่าตนมองน้องชายของเขานานเกินไปแล้วถึงได้พูดเหมือนกับจะไล่กันอย่างนั้น ช่วยไม่ได้นี่นะถ้าเขาจะหึง พวกติดบ่วงหลงรักน้องชายตัวเองก็แบบนี้
ใช่ นั่นล่ะคือสาเหตุ ที่ถึงจางฮั่นจะสนใจเติ๋งเติ่งแค่นี้ เขาก็ไม่เคยคิดล้ำเส้นไปกว่าน้องชายของเพื่อน เฉินเหว่ยถิงหลงรักน้องชายฝาแฝดของตัวเองเข้าเต็มเปา และพร้อมจะกันผู้ชายทุกคนให้ห่างจากเติ๋งเติ่ง
“หวงขนาดนี้เจ้าตัวไม่รู้บ้างหรือไงนะ” จางฮั่นบ่นพึมพำพลางหัวเราะในลำคอก่อนเดินออกจากห้องไป

21.03
“นั่นจะไปไหนอีก วันหยุดไม่เคยอยู่ติดบ้านเลยนะ” เฉินเหว่ยถิงร้องถามเมื่อเขาเดินเข้ามาในห้องนอนของน้องชายแล้วพบว่าเจ้าตัวกำลังแต่งตัวเตรียมจะออกไปข้างนอกอีกครั้ง
“อยู่มาทั้งวันแล้วเนี่ย เบื่อจะตาย” เติ๋งเติ่งตอบอย่างเบื่อหน่าย เพราะนายจางฮั่นมาอยู่ที่บ้านทั้งวัน เจอกันทีไรเขาก็ไม่พ้นถูกสายตานั่นแทะโลมเป็นประจำ
เฉินเหว่ยถิงวางแก้วนมอุ่นไว้บนโต๊ะวางทีวี
“ออกไปเที่ยวตลอด ผู้หญิงเดินเข้าออกบ้านไม่ซ้ำหน้า นี่นายดูแลตัวเองบ้างหรือเปล่า ฉันเป็นพี่ชายนายก็จริงแต่ให้ดูแลทุกเรื่องก็ไม่ได้หรอกนะ ถ้าให้ดูแลมากกว่านี้ฉันไม่ต้องคอยซื้อถุงยางอนามัยให้นายด้วยเหรอไง”
“จะบ่นอะไรนักหนาเนี่ย น่ารำคาญ ขี้เกียจฟัง”
“เติ๋งเติ่ง นายไม่ใช่เด็ก ๆ แล้วนะ จริงจังกับชีวิตได้แล้ว จะทำตัวเสเพลแบบนี้ไปถึงเมื่อไหร่”
“นายจะให้ฉันทำอะไรก็พูดมาตรง ๆ จะอ้อมค้อมอีกนานไหม”
คนเป็นพี่ไม่ตอบทันที ได้แต่ถอนหายใจอย่างเหนื่อยหน่าย
“ให้เลิกทำตัวเสเพล? หมายความว่าไง ให้เลิกเปลี่ยนผู้หญิงไปเรื่อย หรือให้มีแฟนเป็นตัวเป็นตน?”
“ถ้ามีแฟนได้ก็ดี จะได้มีคนดูแลนายสักที ฉันจะได้ไม่ต้องมาคอยดูแลน้องชายเอาแต่ใจอย่างนาย”
“เหอะ เชิญ ไม่อยากดูแล ก็ไม่ต้องดูแล เกิดห่างกันแค่ไม่กี่นาที ฉันไม่ได้อ่อนแอขนาดที่ต้องให้นายมาคอยดูแล สำคัญตัวผิดหรือเปล่า”
“...”
“...”
เกิดความเงียบขึ้นอึดใจระหว่างพี่น้องฝาแฝดที่เติบโตมาด้วยกันกว่าสามสิบปี ไม่รู้เมื่อไหร่ที่ความสัมพันธ์ของเขาทั้งสองคนเต็มไปด้วยความเงียบ
เย็นชา ห่างเหิน
แต่ถึงอย่างนั้นเติ๋งเติ่งก็รู้ดี ว่าพี่ชายดูแลเขาอย่างดีทุกอย่างไม่มีอะไรขาดตกบกพร่อง
และนั่นคือสิ่งที่เจ็บปวดที่สุด....การกระทำ ไร้ความรู้สึก
“ถ้าคิดว่าดูแลตัวเองได้ดีแล้ว ฉันก็จะไม่ยุ่งกับนายอีก” ผู้เป็นพี่ชายตอบเสียงเรียบก่อนหันหลังไปทางประตู เพราะเหลือกันอยู่แค่สองคนพี่น้อง แต่ระหว่างเรากลับมีแต่ความเหินห่าง เหมือนกำแพงที่มองไม่เห็นขวางกั้นเราไว้
กำแพง...ที่เฉินเหว่ยถิงสร้างมันขึ้นมาเอง
ท่าทีที่เขาแสดงออกต่อน้องชายก็ไม่ต่างจากเกราะป้องกันหัวใจของตนเอง เขาไม่รู้จะทำอย่างไรกับความรู้สึกที่มันถลำลึกเกินจะถอนตัว แต่เขาก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ ความรู้สึกผิดบาปในใจขวางกั้นเขาและเติ๋งเติ่งไว้ เกิดเป็นช่องว่างที่ขยายใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ ไม่รู้อีกนานแค่ไหนถึงจะถมมันเต็ม
ในขณะที่กำลังจะก้าวเดินออกจากห้องไปด้วยหัวใจที่เหนื่อยล้า หมอนใบใหญ่ก็ถูกโยนมากระแทกศีรษะอย่างแรงจนเขาเซ แสดงให้เห็นว่าคนที่โยนมาไม่คิดจะออมแรงเลยสักนิด
“นายมันโง่! เมื่อไหร่จะเลิกโง่สักที!

TBC
เหตุเกิดจากความกาวค่ะ เห็นเฮียโชว์ขาอ่อนแล้วอดใจไม่ไหว กร๊ากกกกกกกกกกก 555555555


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น