วันอังคารที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[SF] Tipsy Love 1st SHOT: Drunk #ฮั่นหยาง

[SF] Tipsy Love #Tipsyseries
Pairing: Zhang Han X Yang Yang
1st SHOT: Drunk
……………………………………………………………………………………………………………..
            เสียงดนตรีที่ดังกระหึ่มในสถานบันเทิงยามค่ำคืนได้แต่เพียงผ่านโสตประสาทไปโดยที่คนฟังไม่ได้รับรู้ถึงโน้ตเพลงหรือความหมายของเนื้อร้องใด ๆ
คืนนี้ หยางหยาง อยากอยู่คนเดียว
แก้วใสบรรจุเครื่องดื่มสีอำพันแก้วแล้วแก้วเล่าถูกนำมาวางตรงหน้า แล้วของเหลวเหล่านั้นก็ไหลผ่านลำคอของคนที่กำลังอยากลืมเรื่องราวบางอย่างในชีวิตราวกับต้องการให้มันชะล้างความทรงจำที่หลงเหลืออยู่ในห้วงคำนึงที่เขาไม่สามารถกำจัดมันออกไปได้ด้วยตัวเอง
“คุณ คุณครับ” บาเทนเดอร์หนุ่มพยายามร้องเรียกลูกค้าที่ดูเหมือนจะประคองสติของตัวเองไม่ได้เข้าไปทุกที
“อื้อออ อย่ามายุ่ง” เสียงทุ้มบอกปัด
“แต่ร้านกำลังจะปิดแล้วนะครับ”
“อื้ออออ” คนเมายังคงไม่สนใจคำบอกของบาเทนเดอร์ประจำร้าน
“แต่ว่า...”
“เดี๋ยวผมจัดการเองครับ” หนุ่มใหญ่ในชุดลำลองสวมแจ็กเก็ตตัวหนาพูดแทรกขึ้น
“เอ่อ...” บาร์เทนเดอร์หนุ่มมีท่าทางลังเล เนื่องจากไม่ทราบความสัมพันธ์ของลูกค้าทั้งสอง เขาทำหน้ากระอักกระอ่วนใจจนผู้มาใหม่ต้องยื่นกระดาษสี่เหลี่ยมผืนผ้าแผ่นเล็กลงบนเคาน์เตอร์
“นี่นามบัตรของฉัน มีปัญหาอะไรก็โทรไปที่เบอร์บนบัตรนั่นได้เลย” ชายหนุ่มตัดความรำคาญด้วยการใช้นามบัตรแสดงตัวตนแล้วค่อย ๆ ประคองคนเมาไม่ได้สติออกจากร้านไปอย่างทุลักทุเล
จางฮั่นเป็นช่างภาพฝีมือดีของสตูดิโอที่มีชื่อเสียงอยู่แถวหน้าของวงการแฟชั่น ทันทีที่เขาเห็นหยางหยางก็จำได้ทันที เพราะหยางหยางเป็นนายแบบที่กำลังเป็นที่จับตามองของวงการบันเทิงในตอนนี้และได้ร่วมงานกันบ้างในบางครั้งคราว เขาเห็นนายแบบหน้าสวยดื่มเหล้าอย่างกับดื่มน้ำมาครู่ใหญ่ รวมทั้งเห็นเหล่าเสือสิงห์กระทิงแรดทั้งหลายจับจ้องมาที่ร่างโปร่งสมส่วนไม่วางตา ทั้ง ๆ ที่ไม่อยากยื่นมือเข้ามายุ่ง แต่จางฮั่นก็ไม่อาจปล่อยให้คนที่เขารู้จักต้องเผชิญชะตากรรมที่ไม่น่าไว้ใจในคืนนี้โดยที่เมาไม่ได้สติได้
“นี่ คุณ เดินไหวหรือเปล่า ผมอุ้มคุณไม่ไหวหรอกนะ” จางฮั่นกระซิบถามคนในอ้อมกอด แต่นายแบบหนุ่มไม่เพียงจะไม่ช่วยพยุงตัวเองให้เดินได้สะดวกขึ้นแต่ยังทิ้งน้ำหนักตัวโถมใส่ร่างสูง แถมมือไม้ก็ยังอยู่ไม่สุกปัดป่ายไปตามร่างกายของจางฮั่นอีกด้วย แต่สิ่งที่ร่างสูงกำลังลำบากใจที่สุดตอนนี้ก็คือดวงหน้าสวยที่พยายามซุกไซ้ซอกคอเขาอยู่นี่สิ ดูเหมือนชักจะจัดการยากขึ้นทุกที
“คุณ บ้านคุณอยู่ที่ไหน”
“...” ไม่มีเสียงตอบรับจากหมายเลขที่ท่านเรียก
“เอาวะ งั้นจะมาว่ากันทีหลังไม่ได้นะคุณ”
กว่าจะพานายแบบหนุ่มเข้ามาอยู่ในรถได้จางฮั่นก็เหนื่อยแทบหมดแรง แถมพอจะพาไปส่งที่บ้านหยางหยางก็ดันหลับไม่ได้สติจนเขาไม่สามารถถามที่อยู่ของเจ้าตัวได้ สุดท้ายจางฮั่นจึงพาหยางหยางกลับมาที่บ้านพักของเขาเองที่อยู่แถบชานเมือง
“ฮึก... อย่าไป” ดูเหมือนเจ้าตัวยุ่งในอ้อมกอดของจางฮั่นจะกำลังละเมอ เมื่อเขากำลังวางร่างขาวลงบนเตียงนุ่ม คนที่เหมือนจะหลับก็คว้าแขนของเขาเอาไว้ ดวงตาที่ปิดสนิทก่อนหน้านี้เปิดปรือขึ้นมองจางฮั่นในห้องที่มืดสลัว มีเพียงแสงจากไฟถนนริบหรี่ที่สาดส่องเข้ามา
“...” จางฮั่นไม่ได้ตอบอะไรกลับไป แต่ก็ไม่ได้ขยับตัวออกห่างมองดูเหมือนเขาคร่อมร่างขาวค้างไว้อยู่อย่างนั้น
“พี่อยู่กับผมนะ อย่าไป ฮึก” เพียงแค่ร่างสูงขยับตัว คนตัวบางก็ผวาเข้ากอดเขาแน่น
“ไม่ไปไหนครับ จะอยู่ตรงนี้แหละ” เสียงทุ้มปลอบประโลม
“ฮึก ฮืออออออ” แต่ดูเหมือนนายแบบหนุ่มจะยิ่งเสียขวัญเพราะหยางหยางกลับร้องไห้และสะอื้นหนักกว่าเดิม “ทำยังไง ฮึก ต้องทำยังไงพี่ถึงจะไม่ไป”
กลีบปากเล็กขยับขึ้นจูบปลายคางของร่างสูงอย่างกล้า ๆ กลัว ๆ จางฮั่นถึงกับหยุดนิ่งไม่กล้าแม้แต่จะหายใจ เรียวปากนุ่มยังคงซุกซนมอบสัมผัสอ่อนหวานให้เขาเคล้าไปกับเสียงสะอื้น คนตัวบางหอบน้อย ๆ จากการร้องไห้จนดูน่าสงสาร หยาดน้ำตาที่กลิ้งตัวลงมาบนแก้มขาวล้อกับแสงไฟบางเบาจากนอกห้องทำให้ใบหน้าสวยดูงดงามจนจางฮั่นรู้สึกราวกับกำลังต้องมนตร์เสน่ห์
กลีบปากหนาจูบซับหยดน้ำตาบนแก้มใสอย่างอ่อนโยนจนร่างบางสั่นสะท้าน เรียวแขนขาวสวมกอดร่างหนาแน่นเข้าราวกับกลัวว่าคนตรงหน้าจะหายไป บรรยากาศเงียบสงบในบ้านพักชานเมือง และแสงไฟสลัวเลือนลางยิ่งเป็นใจให้หัวใจของจางฮั่นพ่ายแพ้ต่อสิ่งที่ยั่วยวนอยู่ตรงหน้า แค่เพียงภาพนิ่ง หรือสปอตโฆษณาไม่กี่วินาที ก็ทำให้หยางหยางเข้าไปอยู่ในหัวใจคนได้มากมากมาย แล้วดวงหน้าจิ้มลิ้มที่ห่างแค่ปลายจมูกกั้นกับดวงตาฉ่ำน้ำเจือกระแสเว้าวอนที่ถ่ายทอดมา จางฮั่นจะทนได้อย่างไร...
ราวกับแม่เหล็กดึงดูดริมฝีปากสองคู่ปิดประทับกันแผ่วเบา จากนุ่มนวลเป็นหนักหน่วง เรียวปากเล็กที่แสนเป็นใจเปิดรับเรียวลิ้นเข้าสอดประสานหยอกล้อ
เสียงสะอื้นเงียบไปแล้ว
เหลือเพียงเสียงลมหายใจหน่วงหนักเคล้าแข่งกับเสียงเครื่องปรับอากาศในค่ำคืนที่เงียบสนิท




หยางหยางหลับไปแล้ว
จางฮั่นได้แต่ลูบหน้าเรียกสติตนเอง เมื่อครู่เขาเกือบจะล่วงเกินคนที่เขาพยายามจะช่วยเหลือให้พ้นมือจากเสือสิงห์ยามราตรี แต่ก็เกือบจะเป็นเขาเองที่ทำร้ายความบริสุทธิ์ให้แปดเปื้อน
เขายอมรับว่าถูกใจหยางหยางตั้งแต่แรกเห็น แต่ก็ไม่เคยคิดจะสานความสัมพันธ์ ได้เพียงมองอยู่ห่าง ๆ ในฐานะเพื่อนร่วมงานเท่านั้น แต่คืนนี้เขาปล่อยให้จิตใจฝ่ายปรารถนาเข้าครอบงำจนเกือบจะล้ำเส้นความสัมพัน์ทางกายกับนายแบบหนุ่ม หากเขาปล่อยให้มันเกิดขึ้นจนสุดทาง ก็ไม่รู้ว่าพรุ่งนี้เขากับหยางหยางจะมองหน้ากันได้อย่างไร




แสงแดดยามสายที่สาดส่องเข้ามากระทบเปลือกตาทำให้หยางหยางต้องตื่นขึ้นทั้งที่ไม่เต็มใจนัก หยางหยางมองไปรอบ ๆ ก็พบว่าเป็นสถานที่ที่เขาไม่คุ้นเคย จึงมองออกไปนอกหน้าตาก็พบผู้ชายคนหนึ่งกำลังสูบบุหรี่อยู่ตรงระเบียง เขารู้สึกปวดหัวจนไม่อยากคิดอะไรต่อ จนกระทั่งคนที่ออกไปสูบบุหรี่กลับเข้ามาในห้อง
“ตื่นแล้วเหรอคุณ”
“นายเป็นใคร... ฉันคุ้น ๆ หน้านะ” หยางหยางถามกลับด้วยน้ำเสียงงัวเงีย
“ผมจางฮั่น เป็นช่างภาพ เราเคยทำงานด้วยกันน่ะ”
“แล้วฉันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง” เป็นคำถามที่จางฮั่นคาดไว้อยู่แล้วว่าจะต้องตอบ
“เมื่อคืนคุณเมามาก ผมจะพาไปส่งที่บ้านแต่ผมไม่รู้ว่าบ้านคุณอยู่ที่ไหน เลยพากลับมาที่บ้านผมแทน”
“เอ่อ...ขอบคุณ” หยางหยางกล่าวตอบสั้น ๆ จนจางฮั่นไม่รู้จะต่อบทสนทนาอย่างไรจึงทำได้เพียงพยักหน้าตอบกลับไป
“ขอใช้ห้องน้ำหน่อย” หยางหยางบอกเป็นเชิงขออนุญาตก่อนค่อย ๆ ลุกพาตัวเองไปยังห้องน้ำที่อยู่อีกด้านหนึ่งของห้อง
“ผ้าขนหนูอยู่บนเก้าอี้ ใช้ได้เลย ผมเตรียมไว้ให้คุณ”
หยางหยางมองผ้าเช็ดตัวและเสื้อผ้าที่อีกฝ่ายเตรียมไว้ให้อย่างเรียบร้อยแล้วก็รู้สึกละอายใจที่ต้องให้คนอื่นมาเดือดร้อนในเรื่องของตัวเอง ปากเล็กเม้มแน่นก่อนผงกศีรษะเป็นเชิงขอบคุณไปให้เจ้าของห้อง
นายแบบหน้าสวยมองตัวเองในกระจกก็ยิ่งรู้สึกหดหู่ ดวงตาบวมช้ำบอกให้รู้ว่าเมื่อคืนเขาร้องไห้อีกแล้ว อยากจะดื่มเหล้าให้ความเมาช่วยทำให้ลืมความทุกข์ในจิตใจ แต่พอสร่างเมาทุกอย่างยิ่งประทับอยู่ในความทรงจำ
หยางหยางค่อย ๆ ถอดเสื้อผ้าออกเพื่อชำระล้างร่างกายดวงตาเรียวรีก็ต้องหยุดชะงักเมื่อเขาเห็นอะไรบางจากภาพสะท้อนในกระจก... รอยช้ำสีกุหลาบประทับอยู่บนลาดไหล่ชัดเสียจนเขาต้องหยุดมองก่อนที่ภาพเหตุการณ์ในคืนที่ผ่านมาจะค่อย ๆ หวนเข้ามาในความทรงจำ ความรู้สึกจากสัมผัสอ่อนโยนของใครอีกคนยังติดตรึงอยู่บนผิวกาย แล้วแก้มขาวก็แต้มสีแดงซ่านด้วยความเขินอาย
หัวใจของหยางหยางกำลังเต้นในจังหวะที่แปลกไป...

To be continue
See you next SHOT, “Taking Sips”



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น