[OS] I found you #ถิงถิง
Pairing: 陈伟霆X 陈灏霆
……………………………………………………………………………………………………
“ทำไมนายถึงไม่ไปสัมภาษณ์เข้าเรียนคณะแพทย์”
เสียงเกรี้ยวกราดจริงจังของ ‘เฉินเหว่ยถิง’ พี่ชายคนโตของบ้านถามน้องชาย
“ผมจะไปหรือไม่ไปมันก็เรื่องของผม
ชีวิตของผม ไม่ใช่ชีวิตของพี่”
เผียะ!
“อกตัญญู! ครอบครัวเราทำธุรกิจโรงพยาบาลมาตั้งแต่รุ่นคุณทวด
นายจะไม่รับผิดชอบกิจการของครอบครัวเรา
แล้วตัดช่องน้อยแต่พอตัวทิ้งคุณพ่อคุณแม่ไว้หรือยังไง”
“หึ
โลกนี้คงไม่ต้องการหมอที่หน้าตาเหมือนกันสองคนหรอกมั้งครับ พี่คนเดียวก็เพียงพอแล้วล่ะ”
‘เฉินฮ่าวถิง’
มองตอบพี่ชายฝาแฝดของตนด้วยแววตาแข็งกร้าวเพียงชั่ววินาที
ก่อนที่เหว่ยถิงจะเห็นเพียงแผ่นหลังของน้องชายเดินจากไป
และนั่น...
คือภาพสุดท้ายของน้องชายในความทรงจำของเฉินเหว่ยถิง
บิดาและมารดาของทั้งคู่เสียใจอย่างมากที่ฮ่าวถิง
น้องชายฝาแฝดของเขาออกจากบ้านไป ทิ้งไว้เพียงจดหมายที่บอกว่าจะไปเรียนต่อ
ถ้าไม่ประสบความสำเร็จจะไม่กลับมาที่บ้านอีก
หกปีผ่านไปนับจากวันนั้นผมจึงมายืนอยู่ที่นี่
เมืองศูนย์กลางทางเศรษฐกิจของโลกที่อุดมไปด้วยกลิ่นอายของวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์
...มหานครลอนดอน...
ครอบครัวของเฉินเหว่ยถิงสืบข้อมูลจนรู้ว่าหลังจากฮ่าวถิงเรียนจบคณะสถาปัตยกรรมศาสตร์จากมหาวิทยาลัยที่มีชื่อเสียงในปักกิ่ง
ฮ่าวถิงได้รับการตอบรับให้เข้าเรียนต่อในสถาบันที่มีชื่อเสียงด้านสถาปัตยกรรมระดับโลกซึ่งตั้งอยู่ใจกลางมหานครลอนดอนแห่งนี้
พ่อและแม่ของพวกเขาทั้งสองรวมถึงตัวเหว่ยถิงเองต่างก็ยินดีและภูมิใจในตัวของฮ่าวถิงที่สามารถเดินตามเส้นทางของตัวเองได้อย่างภาคภูมิ
แต่ความทุกข์ใจของคนเป็นพ่อแม่นั้นคือ แม้อยากจะแสดงความยินดีมากแค่ไหน
แต่ก็ไม่สามารถส่งไปถึงลูกได้ อยากเห็นหน้าก็เพียงได้แค่แอบมอง
ตลอดเวลาหกปีมีเพียงจดหมายจ่าหน้าซองถึงพ่อกับแม่เล่าถึงความเป็นไปคร่าว ๆ
ในชีวิตเพียงปีละสองฉบับในวันเกิดของบุพการีทั้งสองท่านเท่านั้น
แต่ในจดหมายทุกฉบับ มีข้อความที่เพียรย้ำเหมือนกันนั่นคือ ‘อย่าพยายามติดต่อผม’
ความทุกข์ใจของบิดามารดา
เฉินเหว่ยถิงรับรู้อยู่เสมอ ไม่ใช่แค่ท่านทั้งสองแต่รวมถึงตัวเขาเองที่คิดถึงน้องชายยิ่งกว่าใคร
พวกเขาอยู่ด้วยกันมาตลอดสิบแปดปี อยู่ ๆ ก็ต้องจากกันโดยไม่ได้ร่ำลา
และไม่สามารถติดต่อกันได้ ถ้าไม่ใช่เพราะความใจร้อนในวัยรุ่นหนุ่มของเหว่ยถิง
และความหยิ่งในศักดิ์ศรีมากกว่าใครของฮ่าวถิง เรื่องก็คงไม่ได้เป็นเช่นทุกวันนี้
คงมีเพียงแค่เขา
ที่จะแก้ไขสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตได้ เหว่ยถิงถึงได้ยืนอยู่ที่นี่
นครลอนดอนที่ใคร ๆ
ต่างใฝ่ฝันจะมาเยือนสักครั้งในชีวิต ไม่ได้สวยหรูในทุกฤดูกาล
เพราะสภาพภูมิประเทศทำให้ลอนดอนมีฝนตกชุกเกือบตลอดปี ทั้งยังมีอากาศแสนอบอ้าวในฤดูร้อนชวนรำคาญเป็นอย่างยิ่ง
เฉินเหว่ยถิงกำลังเดินไปตามถนนในจตุรัสเบดฟอร์ด
ย่านบรูมส์เบอร์รี่
ซึ่งครอบครัวของเขาสืบรู้มาว่าฮ่าวถิงกำลังเรียนอยู่ที่สถาบันชื่อดังในย่านนี้
แต่ดูเหมือนเมฆฝนที่ตั้งเค้าลาง ๆ มาตั้งแต่เช้าจะไม่เป็นใจนัก เมื่อท้องฟ้าเริ่มเปลี่ยนจากสีทึม
ๆ เป็นสีเข้มขมุกขมัว เฉินเหว่ยถิงเร่งฝีเท้าเผื่อหาที่หลบฝนก่อนตัวเขาจะเปียกปอน
แต่ก็ดูเหมือนจะช้าไป...
ฝนเทลงมาอย่างหนักในทันทีทันใด
เฉินเหว่ยถิงจำเป็นต้องวิ่งฝ่าฝนไปหลับในอาคารที่ใกล้ที่สุด
บริเวณเฉลียงของอาคารมีคนวิ่งผ่านไปมาเพื่อรีบไปยังจุดหมายของตัวเอง
เวลาผ่านไปเกือบชั่วโมง
สายฝนก็ยังกระหน่ำลงมาไม่หยุดจนตะวันใกล้ลับขอบฟ้า รถราที่ผ่านไปมาเริ่มบางตาลง
แต่เฉินเหว่ยถิงได้แต่กอดตัวเองที่ยืนหนาวสั่นในเสื้อผ้าเปียกชื้น
“แล้วฉันจะกลับบ้านยังไงเนี่ย”
เสียงพึมพำเป็นภาษาจีนลอยแว่วเข้ามาในโสตประสาท
มองจากหางตาคนพูดเป็นผู้ชายผมยาวหยักศกสวมหมวกไหมพรมหอบข้าวของพะรุงพะรัง
ระหว่างที่ลอบสังเกตว่าชายคนนั้นจะทำอย่างไรต่อไปเขาก็หันมาทางที่เหว่ยถิงยืนอยู่พอดี
“...”
“ฮ่าวถิง...”
เสียงแหบพร่าหลุดชื่อคนที่เขาไม่ได้เจอมาแสนนานออกมาแผ่วเบา
บางที...วันฝนตกในลอนดอนก็ไม่ได้แย่เสมอไป
END
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น