วันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[SF] Tipsy Love 3rd SHOT: Intoxication #ฮั่นหยาง

[SF] Tipsy Love #Tipsyseries
Pairing: Zhang Han X Yang Yang
3rd SHOT: Intoxication
…………………………………………………………………………………………………
            “คุณจางฮั่นคะ อีกครึ่งชั่วโมงบอสเรียกประชุมด่วนนะคะ” เลขานุการสาวเดินมาบอกแจ้งข่าวกับร่างสูงสูงด้วยตัวเองถึงโต๊ะทำงานด้วยสีหน้าเคร่งเครียด
“ครับ มีอะไรอะไรหรือเปล่าครับเนี่ย”
“เรื่องสป็อตโฆษณาที่ต้องไปถ่ายสุดสัปดาห์นี้น่ะสิคะ ดูเหมือนจะมีปัญหาเรื่องนายแบบ”
“โอเคครับ อีกครึ่งชั่วโมงคุยกัน”
คิ้วเรียวเข้มขมวดเข้าหากันอย่างใช้ความคิดแล้วรีบเตรียมเอกสารที่จะต้องใช้ประชุมในอีกสามสิบนาทีข้างหน้า

“นายแบบคนเดิมของเราป่วยกะทันหันเป็นไวรัสตับอักเสบ ทำให้ร่วมเดินทางไปถ่ายสป็อตโฆษณากับเราในวันเสาร์นี้ไม่ได้” ครีเอทีฟสาวประจำออฟฟิศเปิดการประชุมด้วยน้ำเสียงร้อนรน
“แล้วลูกค้าว่ายังไงบ้างครับจางฮั่นถาม
“ลูกค้าอยากให้เราหานายแบบมาแทน เพราะต้องการสป็อตโฆษณาตามกำหนดการณ์เดิมค่ะ วันนี้ก็วันพฤหัสแล้ว เราจะต้องติดต่อนายแบบคนใหม่และคอนเฟิร์มลูกค้าให้ได้ภายในวันพรุ่งนี้”
“ปัญหาคือช่วงเวลาเร่งด่วนแบบนี้เราจะหานายแบบที่ไหนที่ถ่ายได้โดยที่ลูกค้ายังคงพอใจ” เจ้านายของจางฮั่นเอ่ยเสียงเรียบ ไม่ได้แสดงท่าทีร้อนใจนักแม้ดวงตาจะฉายแววเคร่งเครียด”
“ลูกค้ายังคงต้องการคอนเซ็ปต์เดิม คือต้องการนายแบบที่มีอิมเมจแบบยูนิเซ็กซ์ ต้องทั้งหล่อแบบผู้ชาย และสวยแบบผู้หญิงในคนคนเดียวกัน แต่ตอนนี้ฉันนึกถึงใครไม่ออกเลยค่ะ” ครีเอทีฟสาวเอ่ย
“คนนี้เป็นไง” บอสใหญ่เปิดแคตาล็อกภาพถ่ายแล้วชี้ไปที่นายแบบคนหนึ่ง
“ใช้ได้เลยนะคะบอส เคยร่วมงานกับเราหลายครั้งแล้วด้วย”
“โอเค ลองติดต่อเลย” ฝ่ายประสานงานติดต่อนายแบบในภาพทันที หลังจากเสนองานไปก็ได้รับการปฏิเสธกลับมาเนื่องจากนายแบบหนุ่มคิวว่างไม่ตรงกับที่ทางบริษัทต้องการ
พวกเขาใช้เวลาเลือกและติดต่อนายแบบคนแล้วคนเล่าจนเวลาล่วงไปจนพระอาทิตย์ตกดินก็ยังไม่สามารถหานายแบบที่จะมาแทนในงานเร่งด่วนนี้ได้
“นายพอจะนึกถึงใครออกไหม จางฮั่น”
“เออ...” จางฮั่นลังเลเล็กน้อย แม้จะมีคนคนหนึ่งแวบเข้ามาในความคิดเขาทันทีที่นึกถึงคอนเซ็ปต์นี้ก็ตาม จางฮั่นเปิดแฟ้มผลงานที่เขาเคยถ่ายแบบให้หยางหยางเอาไว้แล้วเลื่อนให้เจ้านายและครีเอทีฟสาวดูพร้อมกัน
“เจ๋ง” ผู้บริหารหนุ่มดีดนิ้วและสั่งงานต่อทันที “ติดต่อนายแบบคนนี้ได้เลย ถ้าเขาโอเคก็คอนเฟิร์มกับลูกค้าได้เลย
ฝ่ายประสานงานดูแลเรื่องการติดต่อกับนายแบบหน้าสวยก่อนโห่ร้องดีใจ เมื่อฝ่ายนั้นตอบตกลง ทุกคนในห้องประชุมต่างโล่งใจกันเป็นแถบ

เช้าตรู่ของวันเสาร์มีฝนตกเล็กน้อย จางฮั่นอาสามารับหยางหยางที่บ้านพักเพื่อไปขึ้นรถตู้พร้อมกับทีมงานคนอื่น ๆ ที่สตูดิโอ คนตัวเล็กดูตื่นเต้นดีใจที่จะได้ออกไปทำงานนอกสถานที่
“ไปทำงานนะ ไม่ได้ไปเที่ยว” ช่างภาพหนุ่มแกล้งแซวคนขี้เห่อ
“โถ่ พี่จางก็ ก็คล้าย ๆ ไปเที่ยวนั่นแหละครับ” ปางเล็กยู่อย่างแสนงอน มือใหญ่เลยยื่นไปจับปลายจมูกเล็กบิดไปมาอย่างด้วยความมันเขี้ยว
“โอเค ๆ แต่ตอนนี้ต้องรีบไปแล้วล่ะ เดี๋ยวจะสายเอานะ”
จากสตูดิโอถึงสถานที่ที่พวกเขาจะใช้ถ่ายทำใช้เวลาเดินทางประมาณสามชั่วโมง หยางหยางที่ตอนแรกตื่นเต้นดีใจ พอรถเคลื่อนตัวก็ผล็อยหลับไปเป็นคนแรก จางฮั่นที่นั่งอยู่ด้านข้างเลยต้องอุทิศไหล่ของตัวเองเป็นหมอนชั่วคราวให้นายแบบขี้เซา
สายฝนโปรยปรายลงมาตลอดช่วงเช้าจนกระทั่งพวกเขามาถึงที่พักในรีสอร์ทสวยกลางหุบเขา
“ฮัดเช้ย!” หยางหยางจามทันทีที่ออกมาสัมผัสอากาศด้านนอก
“น้องหยางหยางไม่สบายหรือคะ” ทีมงานคนหนึ่งถามขึ้น
“คงจะแพ้อากาศน่ะครับ เพราะวันนี้ฝนตก” จมูกขาว ๆ แดงขึ้นจนเห็นได้ชัด
“อย่าโดนฝนดีกว่านะ เดี๋ยวจะไม่สบายเอา” จางฮั่นกางร่มขึ้นมากันละอองฝนให้นายแบบหน้าสวยแม้ตอนนี้สายฝนจะเบาบางลงมากแล้ว
“ขอบคุณครับ” หยางหยางส่งยิ้มตาหยีให้ร่างสูงพลางขยับเข้ามาใกล้เพื่อหลบฝนอยู่ในเงาร่มคันเล็ก
จื้อเสียน สไตลิสต์ประจำกองถ่ายแอบเห็นละอองสีชมพูรอบตัวนายแบบและช่างภาพหนุ่มก็อดหันไปกระซิบกระซาบกับช่างแต่งหน้าในกองไม่ได้
“เสี่ยวซี ดูสองคนนั้นสิ มีซัมติงนะว่าไหม”
“ฉันก็ว่างั้นแหละ แอบเห็นเค้ากุ๊ก ๆ กิ๊ก ๆ กันตั้งแต่ไปถ่ายแบบที่สตูดิโอคราวก่อนแล้ว” เสี่ยวซี ช่างแต่งหน้าประจำกองเออออเห็นด้วยพลางเล่าเหตุการณ์ที่ตนแอบสังเกตมาให้จื้อเสียนฟังระหว่างที่ทั้งสองกำลังเช็คอินห้องพักให้ทีมงานทั้งหมดอยู่ที่หน้าเคาน์เตอร์
“ขอโทษนะคะ พอดีห้องเดี่ยวสองห้องที่จองไว้น้ำประปามีปัญหาน่ะค่ะ ถ้าคุณลูกค้าจะเปลี่ยนเป็นห้องคู่หนึ่งห้องได้ไหมคะ เพราะตอนนี้ห้องเดี่ยวเต็มหมดแล้วค่ะ” พนักงานของรีสอร์ทเอ่ยขึ้นด้วยสีหน้าเป็นกังวล แต่เสี่ยวซีกับจื้อเสียนกลับมองหน้ากันแล้วอมยิ้มขึ้นทันที...

พอรู้ว่าต้องพักห้องเดียวกับจางฮั่น หยางหยางก็ทำตัวไม่ถูกขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าร่างสูงจะเป็นเพื่อนที่ดี เป็นพี่ชายที่ให้คำปรึกษากับเขาหลายครั้ง แต่เพราะเหตุการณ์ที่ทำให้ใกล้ชิดกันโดยไม่ตั้งใจก็ทำให้หยางหยางอดรู้สึกขัดเขินขึ้นมาไม่ได้
“ไม่อยากอยู่ห้องเดียวกับพี่เหรอ” จางฮั่นถามขึ้นด้วยท่าทางสบาย ๆ
“เปล่าครับ คือ...”
“ถ้าไม่สบายใจพี่ไปนอนที่โซฟาก็ได้นะ”
“มะ ไม่เป็นไรครับ”
“ไม่ต้องคิดมาก พี่ยังไงก็ได้ เอาที่หยางหยางสบายใจนั่นแหละ” แล้วร่างสูงจะลูบหัวทุยเบา ๆ ด้วยความเอ็นดู “พี่ออกไปเตรียมงานก่อนแล้วกัน อ้อ ยาลืมกินยาแก้แพ้ด้วยล่ะ พี่วางไว้ตรงนี้นะ”
“ขอบคุณครับ...” หยางหยางไม่ทันได้พูดอะไรมากนัก แต่จางฮั่นที่ดูรีบร้อนกับการเตรียมงานก็ออกไปเสียก่อน

ระหว่างการทำงานจางฮั่นค่อนข้างยุ่งมากเพราะนอกจากงานถ่ายภาพนิ่งแล้วยังต้องช่วยกำกับภาพในส่วนของสป็อตวิดีโออีกด้วย หลังจากถ่ายทำสป็อตวิดีโอเสร็จหยางหยางและทีมงานคนอื่น ๆ ก็ได้รับอนุญาตให้ไปพักผ่อนตามอัธยาศัย มีเพียงจางฮั่น ฝ่ายครีเอทีฟ และผู้กำกับเท่านั้นที่ยังประชุมงานกันต่อ
หยางหยางออกไปเดือนเล่นในสวนดอกไม้ของรีสอร์ทคนเดียวเพราะไม่อยากรบกวนทีมงานคนอื่น ๆ ที่ต้องการพักผ่อน รีสอร์ทที่นี่ปลูกดอกไม้สีสันสดใสไว้มากมายจนเขาอยากจะจะชวนจางฮั่นมาเก็บภาพสวย ๆ ที่นี่ไว้ด้วยกัน
แสงตะวันลาลับจากขอบฟ้า บรรดาไฟประดับยามค่ำคืนตามทางเดินก็เริ่มอวดแสง เผยให้เห็นร้านอาหารกึ่งผับเล็ก ๆ กลางสวน และเสียงดนตรีที่ลอยตามลมมาชวนให้อยากเข้าไปเยี่ยมเยียน เมื่อเข้าไปในร้านก็พบกับบรรยากาศสบาย ๆ เหมาะกับการมาสังสรรค์ยามเย็น ด้วยบรรยากาศแบบเอาท์ดอร์ทำให้ลูกค้าสามารถมารับประทานอาหาร ฟังเพลง และเสพบรรยากาศยามค่ำของธรรมชาติรอตัวได้
หยางยางนั่งจิบค็อกเทลที่เคาน์เตอร์ฟังเพลงอยู่สักพักโทรศัพท์ของเขาที่อยู่ในกระเป๋าก็สั่นขึ้น จางฮั่นทักเขามาในแอปพลิเคชันแชทส่วนตัว ถามว่าตอนนี้อยู่ที่ไหน เขาจึงส่งข้อความบอกสถานที่กลับไป อีกฝ่ายจึงบอกว่าจะตามมา หยางหยางอมยิ้มกับข้อความก่อนจะลุกไปเข้าห้องน้ำ กะไว้ว่ากลับมาจะหาที่นั่งใหม่จะได้ทานอาหารเย็นพร้อมกับจางฮั่น
แต่ระหว่างทางที่จะเดินไปห้องน้ำ เขาก็พบกับคนที่เขาคาดไม่ถึงว่าจะเจอที่นี่
“ฉันพูดความรู้สึกของฉันไปหมดแล้ว และฉันก็ยืนยันคำเดิม” เป็นเสียงของจิ่งป๋อหรันที่หยางหยางจำได้ดี
“มันคือความรู้สึกทั้งหมดจริง ๆ ของนายน่ะเหรอ” เสียงอีกเสียงที่คุ้นเคยทำให้หยางหยางบีบมือตัวเองแน่น
“ใช่”
“ระหว่างเรามันไม่เคย...”
“เราอย่าเจอกันอีกเลยดีกว่า” จิ่งป๋อหรันพูดจบก็เดินหนีอีกฝ่ายออกมาทันที
“ต่อให้นายจะรู้สึกยังไง ฉันก็ยังรู้สึกกับนายเหมือนเดิม” อีกฝ่ายพูดไล่หลังมา แต่จิ่งป๋อหรันไม่สนใจ และเดินมาเจอกับหยางหยางที่ยืนอยู่แล้วพอดี จิ่งป๋อหรันไม่พูดอะไร หลบสายตาก่อนจะเดินจากไปด้วยแววตาที่หยางหยางอธิบายความหมายไม่ได้
หยางหยางกำลังจะลืม... กำลังจะทำใจได้ แต่ตอนนี้เหมือนความเข้มแข็งทั้งหมดที่เขาเพียรสร้างมาตลอดกำลังพังทลายลง
ชายหนุ่มอีกคนที่คุยกับจิ่งป๋อหรันอยู่เมื่อสักครู่เดินออกมาก็พบหยางหยางที่เหมือนกำลังยืนรอเขาอยู่แล้ว
“หยางหยาง...”
“ครับ...พี่ถิง”



To be continue
See you next SHOT


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น