[SF] Tipsy Love #Tipsyseries
Pairing: Zhang Han X Yang Yang
4th SHOT: Sober [END]
………………………………………………………………………………………………………………
“หยางหยาง ไปอาบน้ำก่อนไหม” จางฮั่นพาหยางหยางที่สติลางเลือนด้วยฤทธิ์แอลกอฮอล์กลับมาถึงห้องพักในเวลาที่ล่วงเข้าวันใหม่แล้ว
ช่างภาพหนุ่มไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับคนตัวเล็ก
เมื่อเขาไปเจอกับร่างบางตามนัดก็พบว่าอีกฝ่ายกำลังดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เสียจนเมามายเหมือนวันที่เขาไปเจอร่างบางอยู่ที่ผับ
เมื่อเขาปรากฏตัวหยางหยางก็โผเข้ากอดและปล่อยโฮกับอกของเขา
ร่างขาวหอบสะอื้นจนตัวโยน เมื่อคนภายในร้านเริ่มหันมาให้ความสนใจจางฮั่นจึงต้องรีบพาหยางหยางออกมาจากร้านก่อนที่ใครจะจำได้แล้วอาจจะเป็นข่าวทำให้เกิดผลเสียต่องานของนายแบบหนุ่มได้
“ฮึก...” ร่างบางยังคงสะอื้นเบา ๆ
จางฮั่นไม่เคยถามว่าความเสียใจที่ทับถมหัวใจดวงเล็กนั้นเกิดจากอะไร
ได้แต่เฝ้าหวังว่าความรู้สึกที่เขาส่งไปให้จะปลอบโยนความเจ็บปวดนั้นลงได้บ้าง
ร่างสูงเห็นว่าควรให้คนตัวเล็กได้นอนพักผ่อนทั้งร่างกายและจิตใจจึงไม่คิดจะฝืนให้อีกฝ่ายไปอาบน้ำอีก
เขาจึงเตรียมกะละมังที่ผสมน้ำอุ่นและผ้าขนหนูมาเช็ดตัวให้
ดวงหน้าสะสวยที่เขาชอบมองไม่สดใสเหมือนเคย
ดวงตาบวมช้ำจากการร้องไห้
นิ้วหัวแม่มือของมือใหญ่ไล้กรอบริมฝีปากอิ่มอย่างทะนุถนอม จางฮั่นอยากให้เรียวปากนี้มีแต่รอยยิ้ม
เขาไม่อยากให้หยางหยางต้องร้องไห้อีกแล้ว
ระหว่างที่มือใหญ่กำลังเช็ดทำความสะอาดร่างกายท่อนบนให้ร่างขาว
ฝ่ามือเล็กก็หยุดมือหนาไว้บริเวณแผ่นท้องเรียบตึง
จางฮั่นหันไปมองเจ้าของปฏิกิริยาด้วยสายตาเป็นคำถาม
แต่คำตอบในดวงตาที่เปิดปรือขึ้นกลับเต็มไปด้วยกระแสเว้าวอน
“ตื่นแล้วเหรอ อยากอาบน้ำไหม”
เมื่อร่างบางไม่พูดอะไรจางฮั่นจึงถามขึ้น
“พี่จาง...ช่วยทำให้ผมลืมได้ไหมครับ”
“หยางหยางหมายความว่าอะไรครับ”
แทนคำตอบ มือขาวค่อย ๆ พามือใหญ่เลื่อนลงไปต่ำกว่าขอบกางเกงสัมผัสกับบางส่วนที่ไวต่อความรู้สึก
ร่างสูงชะงักมือไว้ก่อนที่จะถูกชักนำไปมากกว่านี้
“หยางหยางต้องการอย่างนั้นหรือครับ”
ร่างบางไม่ได้เอ่ยคำใด
นอกจากภาษากายที่บอกความต้องการ วงแขนขาวคล้องคอของร่างสูงให้โน้มเข้าหา
หยางหยางดันตัวขึ้นประทับริมฝีปากแผ่วเบา
เรียวปากเล็กพยายามเชื้อเชิญออดอ้อนให้คนด้านบนมีปฏิกิริยาตอบสนอง
แต่จางฮั่นก็ยังนิ่งเฉยจนหยางหยางต้องหยุดความพยายาม
“พี่จางไม่รักผมหรือครับ”
“แล้วหยางหยางล่ะ รักพี่หรือเปล่า”
เปลือกตาสวยหลุบลงเพราะไม่อาจให้คำตอบได้
หยางหยางคิดว่าตัวเองอาจจะชอบจางฮั่น แต่สำหรับคำว่ารัก เขายังไม่แน่ใจ
หัวใจของเขาคงจะบาดเจ็บเกินกว่าจะรักใครได้ในเวลานี้
“ผม...”
“หยางหยางไม่รักพี่ก็ไม่เป็นไร
แต่สงสารพี่เถอะนะครับ อย่าให้พี่ต้องเป็นแค่ตัวแทนของคนอื่นเลย”
แววตาคมฉายแววตัดพ้อ ร่างสูงบอกความรู้สึกที่เขากักเก็บเอาไว้
ทำไมเขาจะไม่รู้ว่าหยางหยางยังลืมใครอีกคนไม่ได้
แต่เขาไม่อยากเป็นแค่ตัวสำรองที่อยู่ใต้เงาของคนอื่นตลอดไป “ถ้าหยางหยางจะรักพี่
ก็ขอให้รักที่พี่เป็นพี่ได้ไหมครับ อย่ารักพี่เพราะทดแทนใครอื่นเลย”
จบคำพูดนั้นหยางหยางก็ปล่อยโฮออกมาอีกครั้ง
ร่างบ้างสะอื้นไม่หยุด ทั้งความเสียใจจากความผิดหวังในความรัก
และความรู้สึกผิดที่มีต่อจางฮั่นถาโถมเข้ามาในหัวใจดวงน้อย
จางฮั่นได้แค่โอบกอดร่างบางไว้ตลอดคืนพร่ำบอกเพียงแค่เขาจะอยู่ตรงนี้ตราบเท่าที่อีกฝ่ายต้องการ
วันรุ่งขึ้นหยางหยางเงียบหว่าปกติอย่างเห็นได้ชัด
แม้จะพยายามฝืนยิ้มให้ทีมเหมือนเช่นเคยแต่ก็ไม่อาจบดบังแววตาเศร้าหมองไปได้
แต่การทำงานกลับไม่ได้เป็นปัญหาอย่างที่จางฮั่นกังวล
เหมือนคนตัวเล็กจะเรียนรู้วิธีที่จะจัดการอารมณ์ของตัวเองในระหว่างทำงานได้แล้ว
หลังจากการถ่ายโฆษณาผ่านไปด้วยดี
ทีมงานเลยต่างพากันจัดปาร์ตี้เล็ก ๆ
เพื่อเป็นการฉลองและผ่อนคลายจากการทำงานไปในตัว
โดยปาร์ตี้จัดขึ้นโดยขอยืมใช้พื้นที่บางส่วนของร้านอาหารใกล้กับสวนดอกไม้
“หยางหยาง...” คนหน้าสวยที่กำลังเหม่อลอยดึงสติกลับคืนสู่ปัจจุบันเมื่อได้ยินเสียงที่คุ้นเคยเรียกชื่อของตนเอง
“พี่ถิง...”
“ขอนั่งด้วยได้ไหม” โดยไม่รอคำตอบ
เฉินเหว่ยถิงก็นั่งลงบนม้านั่งตัวเดียวกันกับหยางหยาง “อาหารที่นี่อร่อยดีนะ”
ผู้มาใหม่เริ่มเปิดบทสนทนา
“ครับ”
“พี่รู้ว่าหยางหยางคงไม่อยากคุยกับพี่เท่าไหร่”
“ผมไม่รู้จะคุยอะไรนี่ครับ”
“มาทำงานที่นี่เป็นยังไงบ้าง”
เฉินเหว่ยถิงเปิดหัวข้อสนทนาใหม่ ทั้งสองคนคุยถามสารทุกข์สุกดิบกันอยู่สักพักก่อนที่เจ้าของใบหน้าคมคายจะถามถึงสิ่งที่ค้างคาใจมานาน
“เรากลับมาเป็นเหมือนเดิมไม่ได้เหรอ
พี่ไม่อยากเห็นหยางหยางเป็นแบบนี้เลย พี่ไม่สบายใจนะรู้ไหม”
เฉินเหว่ยถิงพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
“เหมือนเดิม...
ตรงที่ผมต้องแอบรักพี่ข้างเดียวอยู่เหมือนเดิมน่ะหรือครับ”
“...”
“...”
“พี่เห็นหยางหยางเป็นน้องชายของพี่เสมอนะ
ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นพี่ก็ยังเป็นห่วงเราอยู่ดี”
“ผมขอเวลาได้ไหมครับ
ตอนนี้ผมยังไม่พร้อม”
“อืม พี่เข้าใจ”
“แล้วพี่กับพี่ป๋อหรันล่ะครับ”
หยางหยางกลั้นใจถามถึงสิ่งที่เขาอยากรู้ แม้มันจะกรีดแทงหัวใจของเขาก็ตาม
“นายก็ได้ยินแล้วเมื่อวาน
พี่ก็ไม่ได้ต่างจากหยางหยางเท่าไหร่หรอก รักเค้าข้างเดียว”
“หึหึ เราสองคนนี่ตลกดีนะครับ...”
หยางหยางหัวเราะและหันไปยิ้มบางให้คนข้างตัว “เป็นไปได้
ผมก็อยากจะบังคับหัวใจตัวเองให้รักคนที่เขารักผมเหมือนกันนะครับ”
“พี่ว่าบางที
นายอาจจะไม่ต้องบังคับก็ได้มั้ง...”
เฉินเหว่ยถิงตอบพร้อมรอยยิ้มกว้างให้คนที่เขารักเหมือนน้องชาย
พร้อมกับพยักเพยิดไปยังร่างสูงที่ดูเหมือนจะยืนรอหยางหยางอยู่
ความรักบางครั้งก็เหมือนกับการอ่านหนังสือ
เรื่องบางเรื่องอาจไม่สมหวังและทำให้เราตกอยู่ในความเศร้าชั่วระยะเวลาหนึ่ง
ถ้าเราลองวางหนังสือเล่มนั้นลง และเปิดอ่านเรื่องใหม่ อะไร ๆ ก็อาจจะเปลี่ยนไป
อยู่ที่หัวใจของเรา
ว่าพร้อมจะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งหรือเปล่า
“สักวัน ผมคงจะลืมพี่ได้
ผมขอไปตามหาหัวใจที่หายไปของผมก่อน ขอให้พี่เจอกับความรักดี ๆ เช่นกันนะครับ”
หยางหยางทิ้งคำพูดไว้เพียงแค่นั้นก่อนเดินจากไป
เฉินเหว่ยถิงได้แต่มองตามหลังร่างเล็กที่เขาอ็นดูมากโดยตลอด
ได้แต่หวังว่าน้องชายจะได้เจอกับรักครั้งใหม่ที่สวยงาม
“หยางหยาง ไม่เป็นไรนะ”
จางฮั่นเอ่ยถามขึ้นด้วยความกังวล เมื่อเห็นว่าหยางหยางเพิ่งคุยกับใครบางคนมา
คนหน้าสวยยิ้มเต็มแก้มเสียจนร่างสูงแปลกใจ
“คงได้เวลาบอกลาความรักครังเก่าแล้วล่ะครับ”
“...”
“ตกใจอะไรกันครับ พี่จาง
ไม่ดีใจกับผมหน่อยเหรอ”
“แล้ว...หยางหยางไม่เสียใจเหรอ”
“เสียใจสิครับ
แต่ผมเสียใจมามากพอแล้วล่ะ”
“งั้น...
ถ้าพี่อยากจะอยู่ข้างหยางหยางต่อจากนี้ไป หยางหยางจะอนุญาตหรือเปล่าครับ”
ดวงหน้าสวยก้มต่ำด้วยความเขินอายกับถ้อยคำที่แสนซื่อและตรงไปตรงมา
หยางหยางขยับไปใกล้กับร่างสูงแนบหน้าผากลงบนบ่าหนาด้วยหัวใจที่อุ่นซ่าน
“ถ้าพี่จางไม่รังเกียจ
ช่วยดูแลหัวใจของผมด้วยได้ไหมครับ”
ใบหน้าหล่อเหลาเผยรอยยิ้มกว้างอย่างมี่ไม่ได้ยิ้มมานาน
คำพูดออดอ้อนแสนน่ารักของร่างเล็กตรงหน้าช่างน่าเอ็นดูเสียเหลือเกิน
มือหนาโอบประคองร่างเล็กให้มาอยู่ในอ้อมกอด
กดริมฝีปากจูบลงบนขมับของคนตัวเล็กแผ่วเบาก่อนเอ่ยคำสัญญาด้วยเสียงกระซิบทว่าหนักแน่น
“จะดูแลให้ดีที่สุดเลยครับ”
- END –
จบแล้วค่า เย้!
เรื่องนี้แต่งด้วยความกาวอย่างล้นเหลือ ทำให้แต่งได้เร็วแบบพรวด
ๆ มาก ๆ
อาจจะไม่ได้ใช้เวลาวางพล็อตเท่าไหร่นัก
เลยอาจจะมีบางช่วงหลุด ๆ หรือกระท่อนกระแท่นอยู่บ้าง
ยังไงก็ฝากติชม แนะนำ กันด้วยนะค้า
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น