[SF] Heart Race #ถิงฝาน
Pairing: William Chan X Kris Wu
1st PACE: PRINCE VS KING
.......................................................................................................................................................
เสียงล้อรถที่บดกับถนนในสนามแข่งและเสียงเครื่องยนต์ที่ดังกระหึ่มในนาทีระทึกช่วงสุดท้ายของการแข่งขันฟอร์มูลาวันกำลังเสียดแทงเข้าไปในโสตประสาทของผู้ชมนับพันที่กำลังชมการแข่งขันสด
ๆ อยู่ในสนามคาตาลุนญ่า ประเทศสเปน แห่งนี้
เป็นวินาทีที่แทบหยุดหายใจ
เมื่อรถสีน้ำเงินเข้มเบี่ยงแซงหน้ารถแข่งสีแดงเพลิงในโค้งสุดท้ายของการแข่งขันพุ่งทะยานเข้าเส้นชัยพร้อมด้วยเสียงกรีดร้องจากแฟน
ๆ ที่ชมกันอยู่ในสนาม
สงครามความเร็วที่เพิ่งจบไปเมื่อสักครู่พร้อมกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของวงการรถแข่งฟอร์มูลาวันยังคงตราตรึงอยู่ในใจผู้ชมทั่วโลก
ทั่วทั้งสนามยังเต็มไปด้วยเสียงโห่ร้องให้กับชัยชนะที่ไม่มีใครคาดถึงของ ‘คริส วู’ นักแข่งเชื้อสายเอเชียคนแรกที่ชนะการแข่งขันฟอร์มูลาวันกรังด์ปรีซ์
ชายคนหนึ่งกำลังยืนมองผู้ชนะจากการแข่งขันที่เพิ่งผ่านไปด้วยหัวใจที่เต้นรัว
หน้าประวัติศาสตร์ของวงการมอเตอร์สปอร์ตกำลังจะเปลี่ยนไป...
ระหว่างที่กำลังให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
คริสก็รู้สึกได้ว่ามีใครบางคนกำลังจับจ้องเขาอยู่
แม้จะมีผู้คนมากมายกำลังให้ความสนใจเขาอยู่ในตอนนี้
แต่สายตาของคนคนนี้กลับทำให้เขาต้องหันไปมอง
เพียงแค่สบตาเขาก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยอย่างน่าประหลาด
หลังจบการสัมภาษณ์
คริสกลับมาฉลองกับเพื่อนร่วมทีมที่ต่างก็รู้สึกตื่นเต้นและดีใจกับชัยชนะในครั้งนี้
หลังจากที่ทีมของเขาไม่ได้ชนะกรังด์ปรีซ์มายาวนานถึงสองปีแล้ว
“นายทำได้ดีมาก คริส
ขอบคุณมากที่ทำเพื่อทีมของเรา”
บอสใหญ่ของทีมกล่าวชื่นชมเขาด้วยความดีใจอย่างปิดไม่มิดแม้เขาจะพยายามรักษาท่าทีแล้วก็ตาม
“โธ่ บอส มัวแต่เก๊กอยู่นั่นแหละ
ดีใจก็บอกมาเถอะน่า” คาร์ลอสนักขับร่วมทีมของคริสเอ่ยแซว
เขาถูกปรามาสไว้ไม่ใช่น้อยที่ดันคริสขึ้นมาเป็นนักขับตัวจริงของทีมท่ามกลางเสียงวิพากษ์วิจารณ์ของใครหลายคนว่าคริสได้ตำแหน่งนี้มาเพราะว่าเป็น
‘ลูกรัก’ ของบอส
“ผมต่างหากครับที่ต้องขอบคุณบอสที่ให้โอกาสผม”
คริสเอ่ยขึ้นพร้อมกับยื่นมือไปรับการเช็คแฮนด์ขอบคุณจากบอสของทีม
เขารู้ว่าบอสเอ็นดูเขาแต่ก็ไม่อยากแสดงท่าทีทำให้ตัวเองดูเป็นคนพิเศษเกินหน้าเกินตาคนในทีม
แต่มือที่ไม่ยอมคลายออกของบอสก็ทำให้คริสวางตัวไม่ถูกขึ้นมาชั่วขณะ
“อะแฮ่ม!” คาร์ลอสกระแอมขึ้นเมื่อเห็นว่าบอสและแชมป์กรังด์ปรีซ์คนล่าสุดกำลังสบตากันนานเกินไป
“ผมว่าพวกเราเตรียมตัวไปปาร์ตี้คืนนี้กันดีกว่า”
เขาพูดพลางตบบ่าคริสและลากเพื่อนร่วมทีมออกมาจากสถานการณ์ที่อาจตกเป็นเป้าสายตาของคนอื่นในทีมได้
“ฉันว่าบอสต้องซัมติงแหงม ๆ”
คาร์ลอสกระซิบพลางเอาแขนพาดบ่าคริสไว้ระหว่างที่กำลังเดินกลับไปที่ห้องพักนักกีฬา
“ซัมติงอะไรของนาย”
“อย่ามาไก๋น่า
อย่าบอกนะว่านายไม่รู้” คาร์ลอสหันมาทำสายตาเจ้าเล่ห์ใส่คริส
“นายคิดไปเองมากกว่า
ฉันไม่เห็นจะรู้อะไรเลย” คริสบอกปัด เขาเข้าใจดีว่าคาร์ลอสหมายถึงอะไร
แต่ไม่อยากจะต่อความให้วุ่นวาย ในสถานการณ์ที่กลืนไม่เข้าคายไม่ออก การวางตัวเฉยเสียน่าจะเป็นวิธีแก้ปัญหาที่ดีที่สุดในเวลานี้
“ก็คอยดูต่อไปแล้วกัน
เชื่อขนมกินได้เลย ฉันว่าฉันมองไม่ผิดหรอก”
“เหอะๆ” คริสได้แต่หัวเราะแห้ง ๆ
แล้วทำทีเป็นไม่สนใจคาร์ลอสอีก
ปาร์ตี้หลังการแข่งขันมีทั้งทีมงานและผู้เกี่ยวข้องมากมายเข้ามาร่วมแสดงความยินดีกับคริส
แต่ตอนนี้เขาไม่ได้กำลังรู้สึกดีใจและผ่อนคลายอย่างที่ควรจะเป็น
การได้เป็นแชมป์ในครั้งนี้เหมือนเป็นการยกระดับความคาดหวังที่มีต่อตัวเขาในสนามต่อ
ๆ ไปให้สูงขึ้นไปอีก การแข่งขันในปีนี้มีทั้งหมด 21 สนาม สนามนี้เป็นเพียงสนามที่ 5 เท่านั้น ความทะเยอทะยานบางในใจก็ลุกโชนขึ้นมาว่าถ้าเขาสามารถทำผลงานได้ดีแบบนี้อีกเรื่อย
ๆ เขาอาจมีสิทธิ์ลุ้นแชมป์โลกในปีนี้ก็ได้
ระหว่างที่ตกอยู่ในภวังค์ความคิด
คริสก็เหมือนจะไม่ทันได้สังเกตว่ามีใครบางคนมานั่งข้าง ๆ เขา
“หน้านายเหมือนกำลังฝันถึงการเป็นแชมป์โลกอยู่เลย
เจ้าชาย” เสียงทุ้มเอ่ยขึ้นทำให้คริสหลุดจากภวังค์ ทั้งประโยคนั่นยังเอ่ยแซวถึงฉายาที่เขาเพิ่งได้รับจากนักข่าวหมาด
ๆ ว่าเป็นเจ้าชายแห่งวงการฟอร์มูลาวัน
คริสหันไปมองหน้าอีกฝ่ายแล้วก็ต้องเลิกคิ้วขึ้นอย่างแปลกใจ
คนที่มานั่งข้าง ๆ
เขาคนนี้คือคนที่มายืนมองเขาตอนสัมภาษณ์กับนักข่าวเมื่อช่วงบ่ายนั่นเอง
ผู้ชายคนนี้เป็นคนเอเชียหน้าตาคมคายที่ทำให้เขารู้สึกว่าเคยเจอที่ไหนมาก่อน
แต่นึกอย่างไรคริสก็นึกไม่ออก
“นายเป็นใคร...”
คริสถามสิ่งที่ค้างคาใจออกไป
“เรื่องนั้นไม่สำคัญหรอก เรามาฉลองให้ชัยชนะของนายในวันนี้ดีกว่า”
อีกฝ่ายยื่นแก้วแชมเปญมาตรงหน้า คริสหลุบมองแก้วใบนั้นอย่างสงวนท่าที
ปาร์ตี้นี้เป็นปาร์ตี้ปิดมีเฉพาะคนที่เกี่ยวข้องกับทีมเท่านั้นที่เข้ามาได้
แม้จะพอวางใจได้ในระดับหนึ่งว่าคนคนนี้คงไม่ใช่คนจากทีมอื่นที่มาสอดแนมเขาอย่างแน่นอน
แต่เขาก็ไม่อยากจะไว้ใจคนที่ไม่รู้จักแม้กระทั่งชื่อสักเท่าไหร่จึงยกแก้วของตัวเองขึ้นดื่มจนหมดและวางแก้วทิ้งไว้ก่อนจะเดินลุกออกมา
“หวังว่าเราคงได้พบกันอีก”
เสียงทุ้มกล่าวไล่หลังมา
แล้วคริสก็ไม่เจอผู้ชายคนนั้นอีกเลยตลอดงานเลี้ยงในค่ำคืนนั้น
เวลาผ่านไปเกือบสัปดาห์
ในช่วงระหว่างพักการแข่งกันก่อนที่จะมีการแข่งครั้งต่อไปในอีกสัปดาห์ให้หลัง คริสนอนเอกเขนกอยู่ในห้องพักของตัวเองกดรีโมทเปลี่ยนช่องโทรทัศน์ไปเรื่อยเพราะยังไม่มีอะไรที่น่าสนใจ
แล้วก็มาหยุดที่ช่องกีฬาที่เขามักเปิดดูบ่อย ๆ ซึ่งในขณะนี้กำลังถ่ายทอดสดการแข่งขันโมโตจีพี
หรือการแข่งขันจักรยานยต์ทางเรียบสูตรหนึ่งอยู่ ถ้าเทียบกับการแข่งขันรถยนต์แล้ว
โมโตจีพีก็คือฟอร์มูลาวันของซูเปอร์ไบค์นั่นเอง
วันนี้เป็นการแข่งขันรอบควอลิฟาย
หรือรอบนับเวลาเพื่อจัดอันดับสตาร์ทในรอบแข่งจริง ทีมที่ใช้เครื่องยนต์จากบริษัทเดียวกับทีมฟอร์มูลาวันของคริสทำเวลาได้เป็นอันดับที่หนึ่ง
จากนั้นภาพรายการก็ตัดไปที่การสัมภาษณ์บอสของทีมต่าง ๆ
จนกระทั่งมาถึงช่วงของการสัมภาษณ์นักแข่ง คริสก็ถึงกับเบิกตากว้าง
ผู้ชายคนนั้น...
คริสรีบพิมพ์ชื่อ ‘วิลเลียม ชาน’
ที่ปรากฏบนหน้าจอโทรทัศน์ลงในแอปพลิเคชันสำหรับค้นหาในโทรศัพท์มือถืออย่างรวดเร็ว
แล้วผลการค้นหาก็ทำให้เขาอึ้งไปชั่วอึดใจ
มิน่าล่ะ... เขาถึงได้คุ้นหน้านัก
ผู้ชายคนนั้นคือแชมป์คนล่าสุดของการแข่งรถจักรยานยนต์ทางเรียบในลีกสูงสุดของโลก
หรือโมโตจีพี เป็นคนเอเชียอีกคนหนึ่งที่ก้าวขึ้นมาอยู่แนวหน้าของวงการแห่งจ้าวความเร็ว
และได้รับการขนานนามว่า ‘ราชา’
To be continue
See you next PACE
………………………………………………………………………………………………………
เปิดเรื่องใหม่อีกแล้วค่า แงงงงง
ช่วงนี้ความคิดฟุ้งซ่านมาก เลยต้องระบายออกมาเป็นฟิคค่ะ
555
เรื่องนี้อาจจะมีข้อมูลเทคนิคเยอะสักหน่อย
ถ้าอ่านแล้วติดขัดยังไงก็แนะนำ
ติชมกันเข้ามาได้นะคะ
ขอบคุณมากค่า ^_^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น