วันอาทิตย์ที่ 25 ตุลาคม พ.ศ. 2558

The Four #จตุรเมีย

[Fic] The Four #จตุรเมีย


Starring:

เฉินเหว่ยถิง        รับบทเป็น          ท่านเจ้าคุณถิงอินทร์

หลี่อี้เฟิง            รับบทเป็น          คุณหญิงสร้อยเฟิง

หยางหยาง         รับบทเป็น          คุณนายหยางมณี

จิ่งป๋อหรัน          รับบทเป็น          ป๋อจันทร์

หวังหยวน          รับบทเป็น          หยวนรตี

จางฮั่น              รับบทเป็น          ฮั่นศักดิ์









            ลุ่มน้ำเจ้าพระยาอันเป็นแผ่นดินทองหล่อเลี้ยงทุกสรรพชีวิตบนแผ่นดินสยาม มีความสงบสุขร่มเย็นใต้พระบรมโพธิสมภารแห่งวีรกษัตริย์มานับร้อยปี เบื้องหลังความรุ่งเรืองแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ มีบุคคลสำคัญทางประวัติศาสตร์ผู้เป็นกำลังสำคัญใต้เบื้องพระยุคลบาทถูกจารึกคุณงามความดีไว้มากมาย และบุรุษที่จะไม่กล่าวถึงเสียมิได้นั้นคือ “ท่านเจ้าคุณถิงอินทร์”




ท่านเจ้าคุณถิงอินทร์เป็นบุตรของเจ้าพระยาเฉินเพชรและคุณหญิงเหว่ยศรี สำเร็จการศึกษาจากโรงเรียนเตรียมทหารชั้นเอกของวังหลวงในสมัยนั้น เมื่อสำเร็จการศึกษาขั้นพื้นฐานจึงไปศึกษาต่อด้านการปกครอง ณ ประเทศสวิตเซอร์แลนด์ และกลับมาเข้ารับราชการสนองคุณแผ่นดินในกระทรวงมหาดไทยนับแต่นั้น





ท่านเจ้าคุณถิงอินทร์ในวัยรุ่นหนุ่ม เมื่อนั้นยังเป็นเพียงท่านชายถิงอินทร์อายุอานามเพียงยี่สิบปลาย แต่ด้วยความเฉลียวฉลาดและความรู้ความสามารถที่ร่ำเรียนมา ทำให้ฝีมือเป็นที่ประจักษ์และได้รับความชื่นชมจากเจ้ากรมนายกรมชั้นผู้ใหญ่เป็นคณานับ




ท่านชายผู้เพียบพร้อมทั้งหน้าที่การงาน รูปลักษณ์และชาติตระกูล ต้องเจอปัญหาครั้งยิ่งใหญ่ในชีวิตเมื่อได้มาหลงรัก “คุณหนูสร้อยเฟิง” บุตรีในท่านเจ้าคุณหลี่แก้วขุนนางใหญ่แห่งกระทรวงโยธิการขณะนั้น แม้จะมีพร้อมทุกอย่าง แต่ความรักนั้นหาได้สมหวังแต่โดยสะดวกไม่ เพราะท่านเจ้าคุณหลี่แก้วทั้งรักทั้งหวงบุตรสาวเพียงคนเดียวดั่งแก้วตาดวงใจ ท่ายชายถิงอินทร์เฝ้านับวันรอเพื่อลอบพบคุณหนูสร้อยเฟิงใต้ต้นตีนเป็ดข้างกำแพงวังหลวงทุกวันโกนสองยามไม่ขาดไม่เกิน




แต่แล้ววันที่ท่านชายถิงอินทร์หวั่นกลัวที่สุดก็มาถึง เมื่อได้ยินข่าวเล่าลือจากในวังหลวงว่าท่านเจ้าคุณหลี่แก้วจะถวายตัวคุณหนูสร้อยเฟิงเข้ารับใช้ใกล้ชิดในเขตพระราชฐานชั้นใน ประกอบกับเป็นที่ท่านชายได้เลื่อนตำแหน่งเป็นเจ้ากรมชั้นกลางในกระทรวงมหาดไทย จึงได้ตัดสินใจสู่ขอคุณหนูสร้อยเฟิงมาเป็นภรรยา ด้วยความกริ่งเกรงในน้ำใจของเจ้าพระยาเฉิน ท่านเจ้าคุณหลี่แก้วจึงต้องยกคุณหนูสร้อยเฟิงให้อย่างเสียมิได้




เวลาผ่านไป ท่านชายถิงอินทร์ได้เลื่อนยศเป็นท่านเจ้าคุณถิงอินทร์ มีตำแหน่งเป็นเจ้ากระทรวงมหาดไทยในวัยใกล้สี่สิบ จากคุณหนูสร้อยเฟิงวัยแรกแย้มสดใสในวันนั้น กลายเป็นคุณหญิงสร้อยเฟิงผู้เพียบพร้อมทั้งรูปโฉม กิริยามารยาท และเกียรติยศ





“คุณพี่จะออกเดินทางในวันพรุ่งแล้วหรือเจ้าคะ”




“ใช่ ครานี้จักต้องไปเมืองพิษณุโลกเสียหลายวัน ข้าไม่อยู่เจ้าจักเหงาหรือไม่ ข้าเป็นห่วงเหลือเกิน”



“น้องไม่เหงาหรอกเจ้าค่ะ ผู้คนเต็มเรือนเสียขนาดนี้” เสียงหวานของคุณหญิงเอ่ยเรียบแฝงความนัยที่ท่านเจ้าคุณเข้าใจดี




แม้ท่านเจ้าคุณจะมั่นคงในความรักต่อคุณหญิงเพียงใด แต่ความใคร่นั้นหาใช่เรื่องเดียวกัน ยิ่งเป็นเจ้านายมียศมีเกียรติ ข้าราชการชั้นผู้น้อยต่างก็หวังพึ่งบารมีส่งเสริมให้บุตรสาวของตนมาคอยปรนนิบัติรับใช้ท่านเจ้าคุณไม่ได้ขาด คุณหญิงสร้อยเฟิงมิอาจสนองความต้องการแห่งคฤหัสถ์ได้สมดังที่ท่านเจ้าคุณปรารถนา จึงยอมให้มีการตั้งแต่งหญิงอื่นขึ้นมารับใช้สามีของตนเทียบเท่าเมียคนหนึ่งได้ เพื่อแลกกับการที่ไม่ให้ท่านเจ้าคุณไปเสาะแสวงหาหญิงอื่นไกลพ้นสายตาของคุณหญิง




“ถึงมีใครมากมาย หัวใจข้าก็เป็นของคุณหญิงเพียงคนเดียว อย่าห่วงไปเลย” เสียงทุ้มเอ่ยปลอบโยนผู้ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาอย่างอ่อนหวาน




ดวงตากลมโตชำเลืองออกไปนอกหน้าต่างที่เปิดอยู่ เห็นต้นตีนเป็ดที่ปลูกไว้ใกล้เรือนชานเป็นที่ระลึกถึงความหลังครั้งเก่าเมื่อแรกรัก ยิ่งมองก็ยิ่งหวั่นไหวในหัวใจ




มือแกร่งของเจ้ากระทรวงใหญ่ลูบไล้ไหล่มนปลอบประโลมคนรักที่ยามนี้กำลังน้อยเนื้อต่ำใจ จมูกโด่งเป็นสันจรดลงข้างแก้มนุ่มสูดความหอมจากน้ำปรุงผสมกลิ่นกายเนื้อแท้ของคุณหญิงหอมละมุนติดตรึงใจ เรียวคางสองชั้นอวบอิ่ม เนื้อตัวอวบอัดนุ่มนิ่มพอดีมือให้ความสุขใจยามได้กอด แม้จะแนบกายหญิงอื่นใดก็ไม่เคยทำให้ท่านเจ้าคุณชื่นใจได้เพียงนี้...









ด้านนอกบานประตูห้องนอนของเจ้าของเรือนใหญ่ ยังมีคนอีกสองคนเดินย่ำเท้าไม่เบานักเพื่อรอบุรุษผู้เป็นที่ปรารถนา




“น้องหยางมณี น้องจะมัวรีรออย่างนี้ไม่ได้นะคะ วันพรุ่งท่านเจ้าคุณก็ต้องเดินทางไปถึงเมืองสองแควแล้ว จะปล่อยให้คุณหญิงใช้เวลากับท่านเจ้าคุณเพียงคนเดียวหรือคะ ถึงเป็นเมียรอง แต่เกียรติของน้องหยางมณีก็ไม่ได้ด้อยไปกว่า ถึงอย่างไรก็เป็นบุตรท่านเจ้าคุณใหญ่โตเหมือนกัน”




“โธ่ คุณพี่ป๋อจันทร์ น้องเองก็ไม่ได้ใจเย็นนิ่งดูดายเลยนะคะ ใจน้องยามนี้ก็ร้อนรุ่มราวกับไฟ หากพังประตูเข้าไปได้น้องคงพังไปแล้ว” คุณนายหยางมณีเมียรองของท่านเจ้าคุณถิงอินทร์กล่าวด้วยความร้อนใจ ยิ่งช่วงนี้งานว่าราชการของท่านเจ้าคุณก็มีไม่น้อย แทบไม่มีเวลาให้ตนเลย คราวนี้ยังต้องไปทำงานไกลถึงต่างแดนเสียเกือบเดือน คุณนายหยางมณีได้จึงได้แต่น้อยใจและอิจฉาริษยาคุณหนูสร้อยเฟิงที่ได้ใช้เวลาค่ำคืนสุดท้ายกับท่านเจ้าคุณในยามนี้




ร่างขาวอรชรสมส่วนของคุณนายรองแห่งเรือนเจ้ากระทรวงเดินไปมาด้วยความกังวลใจโดยมีป๋อจันทร์เมียที่สามของท่านเจ้าคุณคอยสังเกตอยู่เป็นระยะ ป๋อจันทร์นั่งพับเพียบข้างเสาเรือนด้วยความเบื่อหน่าย ถอนหายใจไปพลางตบยุงไปพลาง คุณนายหยางมณีได้แต่เดินไปมาหน้าประตูห้องนอนของท่านเจ้าคุณถิงอินทร์และคุณหญิงสร้อยเฟิงมากว่าชั่วโมงแล้ว ป๋อจันทร์อยากจะยุให้พังประตูเข้าไปเสียเหลือเกิน กลัวอะไรกัน อย่างไรก็เมีย ท่านเจ้าคุณหรือจะว่าอะไรได้ คุณหญิงเองก็ไม่เคยมีปากมีเสียง จะมามัวรอให้เสียเวลาก้ไม่รู้ท่านเจ้าคุณจะออกมาหรือเปล่า




“ถ้าน้องหยางมณียังมัวรออยู่อย่างนี้ พี่ก็คงจะไม่รอเป็นเพื่อนแล้วนะคะ ดูท่าแล้วท่านเจ้าคุณคงจะอยู่กับคุณหญิงทั้งคืน”




“พี่ป๋อจันทร์ รอเป็นเพื่อนน้องก่อนเถอะนะคะ น้องไม่เชื่อหรอกว่าท่านเจ้าคุณจะใจร้ายทิ้งน้องไปแดนไกลโดยไม่ร่ำลา”




ป๋อจันทร์กลอกตาขึ้นฟ้าอย่างเหนื่อยหน่ายในความคิดของหยางมณี




รอไปถึงชาติหน้าเถอะ




“ถ้าน้องหยางมณีคิดอย่างนั้นพี่ก็จะไปนอนก่อนแล้วนะคะ ง่วงก็ง่วง ยุงก็เยอะอีก”




ไม่ทันที่ป๋อจันทร์จะก้าวเท้าเดินกลับเรือนตัวเอง เสียงประตูห้องของคุณหญิงสร้อยเฟิงก็ถูกเปิดออก เจ้าของเรือนก้าวเท้าข้ามธรณีประตูออกมาแล้วชะงักเล็กน้อยเมื่อเห็นว่ามีคนอยู่ด้านนอก




“คุณพี่ น้องรอคุณพี่อยู่ตั้งนานแหนะเจ้าค่ะ อยากจะร่ำลาคุณพี่เสียก่อนต้องไปว่าราชการถึงเมืองไกล” ป๋อจันทร์รีบปรี่เข้าไปยืนด้านข้างท่านเจ้าคุณออดอ้อนออเซาะเสียจนออกนอกหน้า




ขณะเดียวกันด้านหลังบานประตูคุณหญิงสร้อยเฟิงก็เดินออกมายืนเคียงคู่สามีของตน ผิวกายขาวผ่องที่โผล่พ้นเหนือผ้าแถบยังพอเห็นรอยสีกุหลาบจาง ๆ ร้อนถึงคุณนายหยางมณีให้ริษยาตาร้อนจนแทบทนไม่ได้




จะต้องออกมาเย้ยหยันกันถึงเพียงนี้เลยหรืออย่างไรคะคุณพี่สร้อยเฟิง หยางมณีคิดอย่างคับแค้นใจ




“คุณหญิงเป็นห่วงน้องหยางมณี กลัวว่าจะเหงาหากข้าต้องจากเรือนไปนาน เลยอยากให้ข้ามาหาเจ้าก่อนจะถึงวันรุ่ง”




หยางมณีได้ฟังก็เชิดสายตาด้วยความไม่พอใจ เหตุใดจะต้องมานึกเป็นห่วงตนกัน หรือจะเป็นเพียงฉากหน้าของแม่พระแสนดีเพื่อเอาใจท่านเจ้าคุณหรือกระนั้น




“แล้วน้องล่ะคะคุณพี่” ป๋อจันทร์พูดแทรกขึ้น




“อีกไม่ถึงสองชั่วยามก็รุ่งสางแล้ว ให้ท่านเจ้าคุณได้ใช้เวลากับหยางมณีเถิด เอ็งมิใช่เมียแต่งในเรือน อย่าได้มักใหญ่ใฝ่สูงนัก” คุณหญิงสร้อยเฟิงกล่าวเสียงเรียบ ด้วยหยางมณีถึงอย่างไรก็เป็นถึงบุตรีท่านเจ้าคุณ ทั้งยังตบแต่งเข้าเรือนออกหน้า คุณหญิงจึงให้เกียรติมากกว่าเมียคนอื่น ๆ




ป๋อจันทร์ได้ฟังคำคุณหญิงก็ไม่พอใจเป็นอันมาก ส่งสายตาร้องขอความยุติธรรมไปยังท่านเจ้าคุณซึ่งเป็นคนกลาง




“อย่าได้น้อยอกน้อยใจไปเลยป๋อจันทร์ เพลานี้ข้ามีเวลาไม่มาก ขอเจ้าจงรอ หากข้ากลับมาเมื่อไหร่ข้าขออนุญาตคุณหญิงแล้วว่าจะไปหาเจ้าเป็นคนแรกเทียว”




ป๋อจันทร์กัดริมฝีปากอย่างไม่อาจขัดผู้เป็นเจ้าของเรือนได้ก่อนกระทืบเท้าปึงปังลงจากเรือนใหญ่ไปเพื่อกลับเรือนของตนโดยมิได้กล่าวคำร่ำลาผู้มีศักดิ์มากกว่าแม้สักนิด




คุณหญิงสร้อยเฟิงได้แต่มองกิริยาท่าทางนั้นโดยไม่แสดงความรู้สึกใด ๆ




“คุณหญิงอย่าได้อึดอัดขัดใจไปเลย ป๋อจันทร์มิได้เติบโตในรั้วในวังเช่นคุณหญิง กิริมารยาทอาจจะไม่สำรวมไปบ้าง อย่างไรก็ต้องฝากคุณหญิงอบรมเขาด้วย”




คุณหญิงสร้อยเฟิงมิได้พูดต่อความอันใดเรื่องป๋อจันทร์ เพียงแต่มองผู้เป็นสามีแล้วกล่าวฝากฝังหยางมณีก่อนเดินกลับเข้าห้องแล้วปิดประตูไป




หยางมณีไม่ได้กล่าวสิ่งใดเพียงเดินหนีเข้าห้องของตนเช่นกัน เดือดร้อนท่านเจ้าคุณต้องรีบเดินตาม คุณนายหยางมณีมียศศักดิ์เป็นถึงคุณนายเพราะแต่งเข้าเรือนท่านเจ้าคุณ แต่หยางมณีเป็นเพียงหญิงสาววัยแรกแย้มอายุเพียงยี่สิบเท่านั้น




ห้าปีก่อนท่านเจ้าคุณหยางเดชสหายเก่าของเจ้าพระยาเฉินเพชรบิดาของหยางมณีเดือดร้อนเงินทองอีกทั้งยังป่วยหนัก จึงได้ฝากหยางมณีไว้ให้อยู่ในความดูแลของท่านเจ้าคุณถิงอินทร์บุตรชายของสหายเก่า เมื่อแรกท่านเจ้าคุณไม่คิดจะรับไว้ตบแต่งในฐานะเมีย แต่ดวงหน้าพริ้มเพราและเสน่ห์แห่งสาวแรกรุ่นทำไมท่านเจ้าคุณไม่อาจห้ามใจตนเอง ครั้งนั้นเป็นความผิดครั้งแรกต่อความรักที่มีให้คุณหญิงสร้อยเฟิง แต่ด้วยจิตใจอันงดงามของคุณหญิงซึ่งเอ็นดูหยางมณีมากกว่าใคร ท่านเจ้าคุณจึงได้แต่งหยางมณีเข้าเรือนมาเป็นเมียรองจนถึงทุกวันนี้





หยางมณียืนนิ่งอยู่กลางห้องของตน เสียงปิดประตูดังตามมาก่อนผู้เป็นสามีจะขยับเข้ามาใกล้จากด้านหลัง




“หากไม่เป็นเพราะพี่สร้อยเฟิงฝากฝังไว้ คุณพี่คงไม่คิดจะมาหาน้องเลยสินะเจ้าคะ” หยางมณีเอ่ยตัดพ้อ




“อะไรทำให้เจ้าคิดอย่างนั้นกันหยางมณี” มือแกร่งเชยคางเรียวขึ้นสบสายตา ดวงตาเรียวรีเอ่อท้นหยาดน้ำใสด้วยความน้อยใจ ดวงหน้าคมคายโน้มลงจูบซับน้ำตา มือหนาโอบประคองเอวคอดให้เบียดชิดเข้าหา “อย่าได้กังวลเรื่องใดเลย เวลานี้มีเพียงข้ากับเจ้าเท่านั้น” สิ้นคำเรียวปากนุ่มก็ประทับแนบริมฝีปากบางคลึงเคล้าปลอบโยนผู้เป็นภรรยาอย่างรักใคร่ ร่างบางถูกดันจนติดอู่นอนก่อนเอนกายราบไปพร้อมจุมพิตแสนหวานของสามีผู้เป็นดั่งดวงใจ





















หนึ่งเดือนผ่านไป... ณ เรือนท่านเจ้าคุณถิงอินทร์




ที่เรือนกลาง เหล่าภรรยาท่านเจ้าคุณอยู่กันพร้อมหน้า คุณหญิงสร้อยเฟิงและคุณนายหยางมณีร่วมรับประทานอาหารกลางวันอยู่บนพื้นยกสูง มีป๋อจันทร์และบ่าวไพร่คอยรับใช้




“น้องหยางมณีคะ ม้าเร็วส่งข่าวมาว่าท่านเจ้าคุณจะกลับมาวันนี้แล้ว น่าดีใจเหลือเกินนะคะ” ป๋อจันทร์พูดขึ้นด้วยความระรี้ระริก




“เอ็งดีใจเพราะท่านเจ้าคุณสัญญาไว้ว่าจะกลับมาหาเอ็งคนแรกล่ะสิ” นวล บ่าวคนสนิทของคุณหญิงเอ่ยขึ้นเหน็บแนมป๋อจันทร์




“อะไรกันนังนวล ข้าเป็นถึงเมียท่านเจ้าคุณ แต่เอ็งเรียกข้าแบบนี้อีกแล้วนะ”




“แล้วจะให้ข้าเรียกเอ็งว่าอย่างไร คุณหญิงรึ คุณนายรึ เป็นเมียท่านเจ้าคุณแต่ไม่ได้แต่ง ก็เป็นไพร่เหมือนกันแหละวะ”




“อีนวล !




“พอได้แล้ว พวกเอ็งนี่อะไรกัน คุณหญิงนั่งอยู่ตรงนี้ยังจะเถียงกันไม่ได้มีความเกรงใจ” น้อย บ่าวอีกคนของคุณหญิงพูดขัดขึ้นเมื่อเห็นว่าการถกเถียงชักจะลุกลามไปกันใหญ่




“พอเถอะ นวล น้อย ข้าจะเข้าห้องแล้ว วันนี้อากาศร้อนนัก รู้สึกไม่ค่อยสบายตัว” คุณหญิงเอ่ยขึ้นในที่สุด




“แต่คุณหญิง ถ้าท่านเจ้าคุณกลับมาล่ะเจ้าคะ” นวลถามขึ้น




“หยางมณี ข้าฝากเจ้าดูแลปรนนิบัติท่านเจ้าคุณด้วย บอกคุณพี่ไปว่าข้าไม่สบาย”




“เจ้าค่ะ” คุณนายรองรับคำเสียงแข็ง ไม่เคยเข้าใจการกระทำของคุณหญิงแม้เพียงนิดว่าทำไมถึงต้องทำเหมือนเป็นห่วงเป็นใยตนเช่นนี้ ก่อนท่านเจ้าคุณออกว่าราชการนั่นก็คราวหนึ่ง ถึงอย่างไรตนก็เป็นเมียรอง จะมีเมียหลวงที่ไหนมาดีกับเมียเล็กของสามี การกระทำของคุณหญิงทำให้หยางมณีไม่อาจไว้วางใจ ฤๅเบื้องหลังหน้ากากที่สวมใส่จะคิดร้ายสิ่งใดอยู่กันแน่




“ถ้าบอกว่าคุณหญิงไม่สบาย มีหรือท่านเจ้าคุณจะนิ่งดูดายขี้คร้านจะรีบไปดูอาการ เผลอ ๆ คงจะขลุกอยู่แต่กับคุณหญิงไม่สนใจอย่างอื่นเลยกระมัง” ลับหลังคุณหญิงและบ่าวไพร่เดินออกไปแล้วป๋อจันทร์ก็เอ่ยขึ้น




“น้องไม่เคยเข้าใจคุณหญิงเลยค่ะพี่ป๋อจันทร์...”











ไม่นานบ่าวจากด้านล่างของเรือนก็วิ่งขึ้นมาส่งข่าว




“ท่านเจ้าคุณกลับมาแล้วขอรับ” หยางมณีตวัดสายตาไปยังบ่าวที่ขึ้นมาส่งข่าวนั้น




“ใครใช้ให้เอ็งขึ้นมาถึงบนเรือนกัน ฮั่นศักดิ์ เดี๋ยวนี้คนสวนบ้านนี้ถือสิทธิ์กล้าดีถึงเพียงนี้แล้วรึ”




“ขออภัยขอรับคุณนาย เรือนชานด้านล่างไม่มีบ่าวไพร่อยู่เลย กระผมจึงรีบมาเรียนให้พวกคุณ ๆ ทราบกัน เกรงว่าจะล่าช้าขอรับ” ฮั่นศักดิ์ คนสวนประจำเรือนท่าเจ้าคุณถิงอินทร์ก้มหน้าตัวสั่นเทาด้วยความกลัวโทษทัณฑ์




“ไม่เป็นไรหรอกจ้ะ พ่อฮั่นศักดิ์ ขึ้นมาส่งข่าวก็ดีแล้ว น้องหยางมณีอย่าได้ถือสาเลยนะคะ พ่อฮั่นศักดิ์เขาหวังดี เราก็รีบไปเตรียมตัวต้อนรับท่านเจ้าคุณกันเถอะค่ะ”




หยางมณีไม่ได้ต่อความเดินผ่านฮั่นศักดิ์ลงจากเรือนไปโดยไม่ได้สนใจคนสวนชั้นไพร่อีก ป๋อจันทร์รีบเดินตามคุณนายรองไม่ห่าง




เมื่อลงมาถึงชานเรือน เกวียนเทียมคนลากของท่าเจ้าคุณก็มาถึงพอดี หยางมณีเผยรอยยิ้มออกมาเต็มแก้ม ยินดีที่จะได้พบสามีผู้เป็นที่รักที่แสนคิดถึง




เมื่อท่านเจ้าคุณก้าวลงจากเกวียน หยางมณีก็รีบเดินรี่เข้าไปหาด้วยความดีใจ แต่แล้วก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อท่านเจ้าคุณยื่นมือไปรับใครอีกคนที่อยู่ในเกวียนให้ลงมาด้วยกัน...




สาวน้อยแรกรุ่นงามสะพรั่ง ดวงหน้าจิ้มลิ้มพริ้มเพราเผยรอยยิ้มสดใสไร้มลทิน หยางมณีถึงกับสะดุดลมหายใจ ภาวนาอย่าให้เป็นอย่างที่ตนกลัวเลยเถิด




ท่านเจ้าคุณยิ้มละมุนก่อนเอ่ยขึ้น




“นี่หยวนรตี มาจากเมืองสองแคว”




“แล้ว...” เสียงของหยางมณีขาดหายไป ไม่อาจเอ่ยอคำพูดที่อาจกรีดหัวใจตนเอง




“พ่อของหยวนรตีฝากฝังมันกับข้าไว้ ต่อไปนี้พวกเอ็งก็ช่วยชี้แนะดูแลหยวนรตีมันด้วยแล้วกัน”




เมื่อท่านเจ้าคุณเอ่ยจบก็ประคองหยวนรตีหมายจะขึ้นเรือน แต่ป๋อจันทร์ทักท้วงไว้ก่อน




“แล้วที่คุณพี่บอกไว้ว่ากลับมาจากพิษณุโลกแล้วจะอยู่กับข้า...”




“ข้าต้องขอโทษด้วยนะป๋อจันทร์ แต่เจ้าก็เห็น หยวนรตียังมาใหม่ ไม่คุ้นเมืองหลวงและบ้านเรือนของเรา ข้าคงต้องดูแลมันก่อน หวังว่าเอ็งจะเข้าใจ”




ท่านเจ้าคุณประคองผู้ที่ได้ชื่อว่าเป็นภรรยาคนที่สี่ผ่านหน้าคุณนายรองและป๋อจันทร์ขึ้นเรือนไป ป๋อจันทร์กรีดร้องเสียงไม่เบานักระบายความไม่พอใจของตน หยางมณีได้เพียงแต่ยืนนิ่งริมฝีปากสั่นระริก น้ำตารินไหลอาบแก้มทั้งสองข้างโดยไม่เอ่ยคำใด



..........



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น