[Special Fic] Memory: วันตรุษจีนของเฉินเหว่ยถิง
Part 3
#วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์
#วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์
พบกันอีกครั้งกับฟิค #วิ่งเปี้ยวโปรเจกต์ ซึ่งคราวนี้มาในธีม “ตรุษจีน”
โดยเราจะเขียนต่อกัน 3 คนคนละ 2 หน้าถ้วน
ไม่มีการบอกพล็อต ต่อแบบไม่รู้เหนือรู้ใต้
อยากรู้ไหมคะ ว่าเรื่องราวจะเป็นอย่างไรต่อไป
มาลุ้นด้วยกันสิคะ :D
Part 3
เฉินเหว่ยถิงเข็นรถขายเกาลัดกลับมาที่บ้านในเวลาเกือบเที่ยงคืนแล้ว
คนเริ่มมาจับจ่ายซื้อของสำหรับพอธีไหว้บรรพบุรุษในวันตรุษจีนทำให้มีผู้คนเข้ามาแวะเวียนในตลาดมากขึ้น
ข้าวของขายดีได้กำไรเพิ่มขึ้นแต่ก็ต้องแลกมาด้วยหยาดเหงื่อแรงงานที่มากขึ้นเช่นกัน
หลังจากเก็บข้าวของล้างกระทะและอุปกรณ์ต่าง
ๆ
เรียบร้อยแล้วชายหนุ่มก็อาบน้ำชำระล้างร่างกายจากความเหน็ดเหนื่อยที่สะสมมาตลอดทั้งวัน
กริ๊งงงงง...
เสียงเรียกเข้าจากโทรศัพท์มือถือรุ่นเก่าราคาไม่กี่ร้อยบาทดังขึ้นพอดีกับที่เฉินเหว่ยถิงเดินออกจากห้องน้ำ
หน้าจอโทรศัพท์บอกชื่อคนที่โทรเข้ามาที่หากไม่ใช่เขาคงไม่รู้ว่าอีกปลายสายคือใคร
แต่เฉินเหว่ยถิงรู้จักดี
‘611’
“สวัสดีครับผู้กอง” ภาษาจีนสำเนียงกวางตุ้งถูกใช้สำหรับสนทนากับอีกฝ่ายที่เข้าใจมันเป็นอย่างดี
“อือ ช่วงนี้มีความคืบหน้าอะไรบ้าง”
“ทุกอย่างเรียบร้อยดีครับ จะมีก็แต่...
ไม่มีอะไรหรอกครับ”
“อะไร ถ้ามีอะไรน่าสงสัยก็บอกมาให้หมด”
“อืมมม...” เฉินเหว่ยถิงถอนหายใจ
เขาไม่คิดว่ามันจะเป็นเรื่องใหญ่อะไร แต่ไหน ๆ ก็ไหน ๆ
แล้วก็จะเล่าให้อีกฝ่ายฟังก็ได้ “ช่วงนี้มีซองแดงที่ข้างในมีรูปที่แอบถ่ายผมไว้มาเสียบไว้หน้าประตูบ้านน่ะครับ”
“หืม รูปแอบถ่าย? ที่ไหน ถ่ายไว้ช่วงไหน”
“ก็เป็นรูปในตลาดที่ผมขายเกาลัดอยู่ มีทั้งเช้า สาย ๆ
บ่าย ๆ หรือเย็น ๆ ก็มี เวลาไม่แน่นอน”
“เริ่มส่งมาตั้งแต่เมื่อไหร่”
“ตั้งแต่เมื่ออาทิตย์ก่อนครับ”
ปลายสายซักถามข้อสงสัยจากเฉินเหว่ยถิงอีกเล็กน้อย
ก่อนสรุปว่ายังไม่มีอะไรน่าเป็นห่วงเพียงแต่บอกให้เฉินเหว่ยถิงระวังตัวมากขึ้นและบอกเล่าความคืบหน้าจากอีกฝ่ายก่อนวางสายไป
เฉินเหว่ยถิงยิ้มบางมองหน้าจอโทรศัพท์ที่กลับมาสู่หน้าจอปกติแล้วหลังจากสัญญาณการสนทนาถูกตัดไป
ไม่รู้ว่าตั้งแต่เมื่อไหร่...ที่การพูดคุยของเขาและเจ้าของชื่อ
‘611’ ในหน่วยความจำของโทรศัพท์มือถือเหลือเพียงการถามความคืบหน้าของ ‘งาน’ เท่านั้น
เยื่อใย...ที่เคยมี ราวกับจางหายเป็นฝุ่นผงกลายเป็นส่วนหนึ่งของอากาศไปนานแล้ว
........................................................................................................................
ตึกแถวเก่า ๆ ในชุมชนที่อยู่อาศัยของชาวจีนในเมืองไทยบางแห่งถูกเปิดให้เช่าในราคาถูก
ซึ่งเฉินเหว่ยถิงเลือกที่จะอยู่ที่นี่เพราะใกล้กับตลาดที่เขาต้องไปขายของทุกวันและเหมาะที่จะทำ
‘งาน’ บางอย่างที่ได้รับมอบหมายมา
เดือนแรกของปีผ่านพ้นไปแล้ว แต่อากาศในประเทศที่อยู่ในเขตร้อนชื้นอย่างเมืองไทยก็ยังมีอุณหภูมิเฉลี่ยไม่ต่างจากสามสิบองศาเท่าไหร่นัก
แม้จะมีวันที่อากาศเย็นอยู่บ้างแต่ก็แค่เพียงไม่กี่วันเท่านั้น หลังจากอาบน้ำอาบท่าหลังเลิกงานเฉินเหว่ยถิงจึงมักใส่เพียงกางเกงขาก๊วยตัวเดียวมายืนรับลมริมระเบียงมากกว่าอุดอู้อยู่ในห้อง
ในใจเขายังประหวัดถึงซองสีแดงที่เข้ามาทักทายในชีวิตเขาในช่วงนี้
เจ้าของเป็นใครกันนะ
ที่สำคัญ...มีจุดประสงค์อะไรกันแน่
ตุบ!
ทันใดนั้นก็มีเสียงของหนักหล่นกระทบพื้น
ด้วยสายตาที่ว่องไวเฉินเหว่ยถิงก็เห็นเงาของใครบางคนเคลื่อนไหวอยู่ด้านล่างก่อนหายลับไปในซอกตึก
ไวเท่าความคิดเขาจึงโหนตัวข้ามระเบียงและไต่ราวเหล็กข้างกำแพงตึกลงมาจากห้องพักที่อยู่บนชั้นสาม
ไปไหนแล้ว!
ชายหนุ่มค่อย ๆ
เดินตามไปยังทางที่เขาเห็นเงาปริศนานั่นเป็นครั้งสุดท้าย ในซอกตึกนี่เป็นทางตัน
ถ้ามีคนหนีเข้ามาที่นี่ต้องไม่มีทางออกไปไหนได้แน่
กริ๊ก
เสียงโลหะกระทบกันดังมาจากใกล้ ๆ กับกองถังน้ำมันเก่า ๆ
คนที่เขาตามหาต้องซ่อนตัวอยู่ข้างหลังนั่นเป็นแน่
เข้าหยิบท่อนเหล็กเรียวยาวจากพื้นใกล้ตัวขึ้นมาเป็นอาวุธป้องกันตัวก่อนสาวเท้าเข้าไปใกล้บริเวณที่ซ่อนตัวนั้น
เมื่อเดินใกล้เข้าไปเขาก็เงื้อท่อนเหล็กในมือสูงขึ้นพร้อมลงมือ
“หยุด อย่าทำอะไรผมนะ!” เสียงเล็ก ๆ เหมือนเด็กผู้ชายที่ยังไม่แตกหนุ่มดังขึ้น
“ถ้าไม่อยากเจอดีงั้นก็เดินออกมา”
เฉินเหว่ยถิงพูดขึ้นก่อนก้าวถอยหลังออกมาเล็กน้อย
คนที่ซ่อนอยู่ใต้เงาถังน้ำมันเก่าค่อย ๆ
เผยตัวออกมาจนแสงไฟถนนอันริบหรี่ที่อยู่อีกฟากของซอกตึกส่องให้เห็นใบหน้าของบุคคลปริศนา
“คุณหนู...”
เด็กชายวัยสิบสี่ที่แสนคุ้นตาที่เขาเจอทุกวันเวลาไปขายเกาลัดที่ตลาดนั่นเอง
“...” เด็กชายก้มหน้าก้มตา ไม่ยอมตอบคำพูดใด ๆ
กับชายหนุ่ม
“คุณหนูมาทำอะไรที่นี่ครับ”
“ฉัน....”
ไม่ทันได้คำตอบเฉินเหว่ยถิงก็สังเกตเห็นสิ่งที่คล้องคอของเด็กชายอยู่...กล้องถ่ายรูปนั่นเอง
TBC
……………………………………………………………………………………………………
จบไปอีกหนึ่งตอน มาลุ้นกันต่อดีกว่าค่ะ
ว่าตอนต่อไปจะเป็นยังไง
ติดตามตอนต่อไปได้ที่ @zpctxv ค่ะ
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น